- 7 วัน 4 คืน
รหัส : SPSEU304
ราคาเริ่มต้น ฿69,900
17.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบินเอมิเรตส์
โดยมีเจ้าหน้าที่ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
20.35 ออกเดินทางสู่ ปารีส (Paris) โดยสารการบินเอมิเรตส์ (Emirates) เที่ยวบินที่ EK373
00.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง
03.20 น. ออกเดินทางต่อสู่ปารีสด้วยเที่ยวบิน EK71
08.00 น. ถึงท่าอากาศยานชาร์ล เดอ โกลด์ประเทศฝรั่งเศส นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั๋วโมง) นำท่านเดินทางสู่มหานครปารีส (Paris) เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์อันเหลือล้น ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้าสมัยแห่งหนึ่งของโลก ที่ทรงด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทาให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
นำเที่ยวชมความงดงามของมหานครปารีส ผ่านชมความสวยงามของแม่น้ำแซนน์ที่ตัดผ่านใจกลางกรุงปารีส ข้ามสะพานสู่ เกาะเดอ ลา ซิเต้ กลางแม่น้ำแซน ผ่านลานประวัติศาสตร์จัตุรัสคองคอร์ด (Place de la Concorde) ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส แล้วผ่านเข้าสู่ถนนสายโรแมนติก ชองป์เอลิเซ่ (Champs Elysees) ซึ่งทอดยาวจากจัตุรัสคองคอร์ดตรงสู่ประตูชัยนโปเลียน นำชมและถ่ายรูปคู่กับประตูชัยนโปเลียน (Arc de Triomphe) สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของจักรพรรดินโปเลียนในศึก เอาส์เตอร์ลิทซ์ในปี 1805 โดยเริ่มสร้างขึ้นในปีค.ศ.1806 แต่มาแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1836 แล้วจากนั้นนำถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับหอไอเฟล (Tour Eiffel) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นสูงตระหง่านคู่นครปารีสด้วยความสูงถึง 1,051 ฟุต ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1889 ที่บริเวณจัตุรัสทรอคคาเดโร่
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านล่องเรือแม่น้ำแซน ไปตามแม่น้ำแซน ที่ไหลผ่านใจกลางกรุงปารีส ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันคลาสสิคของอาคารต่างๆ ตลอดสองฝั่งแม่น้ำนับว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าประทับใจโดยเรือจะล่องผ่านมหาวิหารนอเตรอดามแห่งปารีส (Notre-dame de Paris) อายุกว่า 800 ปี เป็นมหาวิหารสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่งามเลิศ โดดเด่นด้วยหอคอยคู่หน้าทรงเหลี่ยมและยอดปลายแหลมบนหลังคาวิหารสูงจากระดับพื้นดินถึง 96 เมตรเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 กับพระนางมารี อังตัวแนตต์และยังเป็นจุดกิโลเมตรที่ศูนย์ของประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย นำท่านถ่ายรูปคู่กับพิพิธภัณฑ์ลูฟท์ (Louvre Museum) พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในอดีตที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์กาเปเซียง ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นที่จัดแสดงผลงานกว่า 35,000 ชิ้น ในพื้นที่กว่า 60,600 ตารางเมตร และมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากถึง 9.7 ล้านคนต่อปี และที่นี่ยังเป็นที่จัดแสดงของภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ภาพโมนาลิซา (Monalisa) ของเลโอนาร์โด ดาวินชีศิลปินผู้มีชื่อเสียงชาวอิตาลีอีกด้วย
จากนั้นนำท่านเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของโลกอย่าง ลา ซามาริแตง (La Samaritaine) ที่ก่อตั้งในปี 1870 โดย Ernest Cognacq และ Marie-Louise Jaÿ โดยสถาปนิกผู้ออกแบบคือ Frantz Jourdain โดยเป็นอาคารเก่าแก่คลาสสิกที่ถูกขึ้นทะเบียน Monument Historique ให้เป็นโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1990 พบกับความหรูหร่าโดดเด่นทั้งภายนอก และ ภายในอาคารของห้างด้วยศิลปะหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ภาพวาดฝาผนัง, แผงประดับอาคารที่แสนวิจิตร มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีการผสมผสานระหว่างศิลปะอาร์ตนูโว (Art Nouveau) กับอาร์ตเดโค (Art Déco) ได้อย่างลงตัว และภายในอาคารยังมีโครงสร้างเหล็กอันมีเอกลักษณ์ที่ถอดแบบลักษณะมาจากหอไอเฟล ซึ่งห้างได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมา และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ ที่เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของปารีส มีร้านค้าระดับพรีเมียม อาหาร และงานศิลปะ รวมแล้วกว่า 600 แบรนด์ มีนิทรรศการที่จะสลับหมุนเวียนให้ได้ชมตลอด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หอยเอสคาโก้)
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก HAMPTON BY HILTON PARIS CLICHY หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ย่านมงมาร์ต (Montmartre) ซึ่งเป็นย่านศิลปินมากว่า 200 ปีแล้วสัมผัสกับมนต์เสน่ห์และกลิ่นอายของวันวานที่ศิลปะในฝรั่งเศสรุ่งเรืองถึงขีดสุด ชมวิวสวยของนครปารีสจากด้านหน้าบันไดของวิหารสเกรเกอร์ (Basilica of Sacre Coeur) วิหารสีขาวที่เป็นสัญญาลักษณ์อันโดดเด่นของปารีส แล้วเชิญสำรวจร้านกาแฟ หรือชมเหล่าศิลปินที่วาดรูปอยู่ใกล้ๆ จากนั้นพาท่านสัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยนักชอปปิงจากท่ัวทุกมุมโลกในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางกรุง ปารีสที่แกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) หรือท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าของสวิสจากร้าน Bucherer ร้านดังของสวิส ที่มีสาขาเปิดอยู่ใจกลาง
กรุงปารีส โดยมีสินค้ามากมาย อาทิเช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิ เช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำท่านเดินทางสู่กรุงบรัสเซลส์ (Brussels) เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้จากนั้นเข้าสู่จัตุรัสกรองด์ปลาสต์ (Grand Place) ที่มีชื่อเสียงกล่าวขานกันว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ชมศาลา ว่าการเมืองและอาคารที่สวยงามโดยรอบจัตุรัส นำชมและถ่ายรูปกับเมเนเก้นพีส (Mannekenpis) ซึ่งเป็นประติมากรรมเด็กชายตัวเล็กๆ กำลังยืนแอ่นตัวปัสสาวะอย่างน่ารัก ผู้สร้างประวัติศาสตร์และตำนานพื้นเมืองของชาวเบลเยี่ยมซึ่งมีการเล่าขานกันมาหลากหลายตำนาน เช่น มีเด็กชายชื่อจูเลียนสกี มาพบสายชนวนระเบิดกำลังติดไฟ จึงปัสสาวะรดเพื่อดับชนวนและป้องกันเมืองไว้ได้ ชาวเมืองจึงทำรูปแกะสลักนี้ เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญ
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หอยแมลงภู่อบไวน์ขาว)
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก NOVOTEL WAVRE BRUSSELS EAST หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงอัมสเตอดัม (Amsterdam) เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ เมืองแห่งแสงสีและอิสรเสรีภาพ ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นำท่านผ่านชมเมืองที่มากมายไปด้วยพิพิธภัณฑ์ระดับโลกต่างๆ มากมาย จากนั้นนำเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานสคันส์ (Zaanse Schans)ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับกังหันลม สัญลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาวดัตช์ และชมการสาธิตวิธีการผลิตรองเท้าไม้ของชาวดัตช์ที่ใช้ใส่ในชีวิตประจำวันในงานอาชีพต่างๆ พร้อมเชิญเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก
กลางวัน รับประทานอาหารค่า ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านชมเมืองอัมสเตอร์ดัมโดยการล่องเรือหลังคากระจก ลัดเลี้ยวเข้าตามล าคลอง สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ รวมทั้งสภาพบ้านเรือนเก่าแก่อันงดงามสืบทอดมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 และทัศนียภาพของบ้านเรือนอันสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ นำท่านเข้าชมสถาบันสอนการเจียระไนเพชร ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งท่านจะได้สัมผัสและเรียนรู้พื้นฐานในการดูและการเจียระไนเพชรในรูปแบบต่างๆ พร้อมกันนั้นยังได้มีโอกาสเลือกซื้อเพชรเม็ดงามในราคาโรงงานและท่านสามารถเลือกชมสินค้าอื่น อย่างนาฬิกายี่ห้อดังมากมาย อาทิ เช่น ROLEX, PANERAI, TAG HEUER, IWC, PIAGET,LONGINES,OMEGA, TISSOT, CARTIER, BREITLING, CHOPARD รวมไปถึงนาฬิกาแฟชั่นอย่าง GUCCI,DIESEL, DKNY, CHANEL, ICE, EMPORIO ARMANI,
SWATCH, MICHEAL KORS, TOMMY HILFIGER ฯลฯ นำท่านเดินเที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าที่บริเวณจัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) ศูนย์กลางของเมืองที่มีอนุสรณ์สงครามเพื่อรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 และอดีตศาลาว่าการเมืองที่หลุยส์โบนาปาร์ต เคยใช้เป็นพระราชวังหลวงในช่วงที่จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศสเรืองอำนาจ
เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN PLUS HOTEL AMSTELVEEN หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองลิเซ่ (Lisse) เข้าชมเทศกาลดอกไม้ที่สวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof) มีพื้นที่กว่า 200 ไร่ ให้เวลาท่านอิสระเดินเล่นตามอัธยาศัยกับการชื่นชมความสวยงามของดอกไม้นานาพันธุ์หลากสี ที่ท่านชื่นชอบและประทับใจ เพลิดเพลินกับหมู่มวลของดอกทิวลิปหลากหลายสีสันและไม้ดอกนานาพันธุ์ที่บานสะพรั่งอยู่ในสวนสวยและเรือนกระจก เช่น ไฮยาซินธ์ จิเรเนียม ลิลลี่ เป็นต้น **เนื่องจากเทศกาลดอกไม้เคอเคนฮอฟจะเปิดทําการถึงแค่ 11 พฤษภาคม ทําให้คณะที่ออกเดินทาง 8-17 พฤษภาคม 68 จะเปลี่ยนไปเข้าเทศกาลดอกไม้วันก่อนหน้าแทน**
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
บ่าย นำเดินทางโดยรถโค้ชสู่ “หมู่บ้านกีธูร์น” (Giethoorn Village) หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นหมู่บ้านที่อาศัยการสัญจรทางน้าเพียงอย่างเดียว จนได้ฉายาว่าเป็น “หมู่บ้านไร้ถนน” มีผู้คนอาศัยเพียงแค่ 2,600 กว่าคนแต่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนนับล้านคน นำท่านดื่มด่ำกับการล่องเรือผ่านลำคลองน้ำใส ต้นไม้ใบหญ้า และอากาศบริสุทธิ์ซึ่งเป็นดั่งสวรรค์สำหรับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์อย่างแท้จริง หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองดุสเซนดอร์ฟ
เย็น รับประทานอาหารค่า ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
นําท่านเดินทางต่อสู่เมืองดุสเซนดอร์ฟ (Dussendorf)
ที่พัก นำท่าน เข้าสู่ที่พัก LEONARDOR HOTEL DUSSELDORF AIRPORT RATINGEN หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญ (Cologne) เมืองสำคัญริมแม่น้าไรน์ และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศเยอรมนี ศูนย์กลางทางการค้า งานศิลปะ และอุตสาหกรรม ท้ังยังเป็นแหล่งผลิตน้ำหอมออดิโคโลญ 4711 อันลือชื่อ นำเที่ยวชมตัวเมืองโคโลญ เมืองเก่าสมัยโรมันเรืองอำนาจ
นำท่านถ่ายรูปคู่กับมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาต้ังแต่ปี1248 แต่มีเหตุทำให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้างส่งผลให้ต้องใช้เวลาสร้างกว่าหกร้อยปีจึงเสร็จสมบูรณ์ทั้งนี้จึงแล้วเสร็จในปี1880 มหาวิหารโคโลญเป็นศาสนสถานของคริสต์ศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบโกธิค เป็นหอคอยแฝดสูงถึง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร จุดประสงค์เพื่ออุทิศให้นักบุญปีเตอร์และพระแม่มารี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน)
นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและพาณิชย์ที่สำคัญของเยอรมนีรวมทั้งเป็นศูนย์กลางการธนาคารการเงินและการค้าหุ้นที่สำคัญของประเทศ ผ่านชมสถานีรถไฟแฟรงค์เฟิร์ต ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานีรถไฟต้นแบบของหัวลำโพงประเทศไทย ครั้งเมื่อคราวเสด็จประพาสยุโรปของรัชกาลที่ 5 นำชมจัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) ซึ่งเป็นจัตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง ด้านข้างก็คือ THE ROMER หรือ Frankfurt City Hall หรือศาลาว่าการเมือง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจัตุรัสโรเมอร์
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE RESIDENZ FRANKFURT MESSE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) ประเทศฝรั่งเศส เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) ที่มี2 วัฒนธรรม คือฝรั่งเศสและเยอรมนีเน่ืองจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์ก เป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม นำท่านชมย่านริมน้ำฝรั่งเศสน้อย หรือ LaPetite France หรือ Little France เป็นย่านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ที่เกาะใหญ่กร็องดีล (Grande Île ) บนถนน Rue des Moulins พื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำอิล (River III) ท้ังสี่ด้าน นับว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของเมืองสตราสบูร์กที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่สุดของเมืองนี้ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมบ้านเรือนริมน้ำต่างๆ อีกทั้งยังได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองริควีร์ (Riquewihr) เมืองในเส้นทางสายไวน์แห่งแคว้นอัลซาสที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส นั่งรถผ่านชมบริเวณไร่องุ่นที่ปลูกกันตามแนวไหล่เขาที่ลดหลั่นไปมาก่อน
นำท่านเข้าไปเดินเล่นในตัวเมืองเก่าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงามบรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆ เต็มไปหมด
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านริเบอร์วิลล์ (Ribeauvillé) อีกหนึ่งหมู่บ้านสวยแคว้นอัลซาส โดยที่นี่ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น Ville Fleurie หรือ หมู่บ้านแห่งดอกไม้ บางช่วงอาจจะเจอการประดับประดาบ้านด้วยดอกไม้หลากสีสันต่างๆ เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ในการมาเยือนแคว้นอัลซาส หลังจากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรหมแดนฝรั่งเศส – เยอรมัน สู่เมืองวิลลินเก้น
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar) ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของไวน์แห่งแคว้นอาลซัส (Capitale des Vins d’Alsace) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงบรรยากาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัวเมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้เก่าแก่ ร้านค้าสวยงาม โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลางได้อย่างดีสุดแห่งหนึ่งในประเทศ เมืองนี้มีคลองตัดไปมา จนได้รับสมญานามว่า “Little Venice” นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารเซ็นต์มาร์ติน โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปีค.ศ.1234 – 1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของ
เมืองกอลมาร์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่สวยงามโอ่อ่า
ค่ำ รับประทานอาหารอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก MERCURE COLMAR หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพนิยายตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่าจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังสำคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย นำท่านชมเมืองชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วยความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้ำเงินขาวโดนเด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินขึ้นบันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบของเมืองซุก
นำท่านเข้าชมร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการตั้งแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มีรูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี 1971 ได้เปิดร้านนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายากแล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาชั้นนำระดับโลก
ให้ท่านเลือกซื้อเลือกชมอาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier, Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuerฯลฯ
นำท่านเดินทางสู่เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากนั้นพาท่านชมสิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโก แลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863 นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010 นำท่านชมบ่อหมีสีน้าตาล (Bear Park) สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่านเดินลัดเลาะสู่ถนนจุงเคอร์นกาสเซ (Junkerngasse) ถนนที่ได้รับการอนุรักษ์
ไว้อย่างดีในย่านเมืองเก่า มีบ้านอาคารสไตล์บาโรกตอนปลาย นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเบิร์น (Bern’s Minster) วิหารสไตล์โกธิคที่สูงที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1421 ประตูจะมีภาพที่บรรยายถึงการตัดสินครั้งสุดท้ายของพระเจ้า .
จากนั้นเดินสู่ถนนแครมกัซเซอ (Kramgasse) นำถ่ายรูปกับบ้านไอน์สไตน์ (Einsteinhaus) บ้านเลขที่ 49 ที่อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เคยอาศัยอยู่ที่นี่ เมื่อครั้งมาทำงานเป็นผู้ตรวจสอบของสำนักงานสิทธิบัตรของสวิสช่วงปี ค.ศ.1902-1905 จากนั้นชมหอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Zytglogge) อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆ ชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง นำท่านเดินชมมาร์กาสเซ (Marktgasse) ที่เต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200 – 300 ปี
ค่ำ รับประทานอาหารค่า ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN BERN WESTSIDE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ออกเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองตากอากาศที่สวยงาม เพื่อขึ้นกระเช้า Eiger Express กระเช้าลอยฟ้าตัวใหม่ สู่สถานี Eigergletscher โดยกระเช้าตัวนี้นอกจากจะให้ท่านได้เห็นวิวความสวยงามของจุงเฟราโดยรอบแล้วยังจะช่วยให้ท่านลดเวลาลงกว่า 40 นาที เมื่อเทียบกับการขึ้นสู่ยอดเขาแบบเดิม หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อด้วยรถไฟเพ่ือขึ้นสู่ สถานีรถไฟจุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป (Top of Europe) ระหว่างเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาท่านจะได้ผ่านชมธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ โดยเมื่อปี ค.ศ.2001 องค์การยูเนสโกประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุตหรือ 3,454 เมตร หลังจากนั้นนำท่านเข้าชมถ้าน้ำแข็ง (Ice Palace) ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็งลึกถึง 30 เมตร อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการถ่ายรูป เล่นหิมะบนยอดเขาและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขา และที่ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนยอดเขา
จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอินเทอร์ลาเกน (Interlaken) เป็นเมืองที่ต้ังอยู่ระหว่างทะเลสาบทูน (Lake Thun) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ หลังจากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ใช้เป็นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนชั้นสูงจากทางตอนใต้ของเยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่สนามบินซูริค เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ภายในสนามบิน
22.15 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน EK086
06.25 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครี่อง
09.40 น. ออกเดินทางต่อด้วยเที่ยวบิน EK372
18.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวิสดิภาพ
วันที่เดินทาง | ราคาเริ่มต้น | จำนวนคน | |
---|---|---|---|
26 Mar 2025 - 04 Apr 2025 | ฿ 89,900 | ||
21 Apr 2025 - 30 Apr 2025 | ฿ 89,900 | ||
08 May 2025 - 17 May 2025 | ฿ 89,900 |
รหัส : SPSEU304
รหัส : SPSEU303
รหัส : SPSEU302
รหัส : SPSEU301
รหัส : SPSEU298