- 5 วัน 3 คืน
รหัส : SPSJP183
ราคาเริ่มต้น ฿48,900
19.30 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศ ขาออก ประตู .. เคาน์เตอร์ …
เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกด้านเอกสารท่านก่อนขึ้นเครื่อง
22.10 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานเมืองนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน Thai Airway เที่ยวบินที่ TG 640
06.20 น. ถึง ท่าอากาศยานเมืองฟุกุโอะกะประเทศญี่ปุ่น หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และ ศุลกากรเรียบร้อยแล้ว
นำท่านเดินทางสู่จังหวัดโทะชิงิ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง สู่เมืองตากอากาศ นิกโก สถานที่โรแมนติกและเป็นเมืองยอดนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีของประเทศญี่ปุ่น
จากนั้นนำท่านชม สะพานชินเกียว สะพานแดงโค้งประตูแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขานิโกซัน และยังเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ในรูปแบบฮาเนะบาชิ แห่งเดียวในญี่ปุ่น และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในเดือนธันวาคม ปี 1999 สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปลายยุคสมัยนารา เป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้า นิกโกฟุตาระซัง ใช้ในการประกอบพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ของโชกุน ราชฑูต และแขกบ้านแขกเมืองที่สำคัญเท่านั้น ในสมั้ยก่อนไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้งาน ต่อมาในปี 1972 รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดให้ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมได้ จึงกลายเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินยอดนิยมจึงมาถึงปัจจุบัน อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับสะพานเก่าแก่แห่งนี้ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเข้าชมชม วัดนิกโกซัง รินโนะจิ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และยังมีอุโบสถไม้หลังใหญ่ที่สุดในภูเขานิกโก นามว่า โฮนโดะ (ซันบุสึโด) สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน ปี 1645 โดยท่าน อิเอมิตสึ โชกุนโทคุงาวะลำดับที่ 3 ปัจจุบันเป็นทีประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ 3 องค์ ซึ่งมีนามเรียกว่า นิกโกะซัน โซกงเง็นฮอนจิบุตสึ แต่ละองค์มีขนาดราว 7.5 เมตร (เซ็นจู คันนง, อามิดะ เนียวไร และ บาโตะ คันนง) ซึ่งเป็นที่เคารพและสัการะของประชาชนชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก และด้านหน้าอุโบสถหลังนี้ยังมีต้นซากุระ นามว่า คองโกซากุระ’ ซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี และถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติอีกด้วย
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
หลังรับระทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว นำท่านกลับมาเยี่ยมชมภูเขานิกโก้ซัง นำท่านเดินทางสู่เส้นทางอาณาบริเวณของ ศาลเจ้าโทโชกุ ให้ท่านได้แวะถ่ายรูปคู่กับ เจดีย์ห้าชั้น โกจูโนะโตะ อันสวยงาม เจดีย์แห่งนิกโกนี้ ก่อสร้างในปี 1650 โดยท่าน ทาดาคัตสึ ซากาอิ ผู้ปกครองแคว้นโอบามะ จังหวัดฟุคุอิ ต่อมาช่วงปี บุนกะ ที่ 12 ได้เกิดเพลิงไหม้ และได้บูรณะขึ้นใหม่อีกครั้งโดยตระกูล ซากาอิ ราวปี 1818 ซึ่งปัจจุบันเป็นเจดีย์ สวยงามและยังเป็นเจดีย์ที่สำคัญแห่งภูเขานิกโกแห่งนี้สืบมาจนทุกวันนี้ อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาชมความงามและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเยี่ยมชม ชินคิวชะ คอกม้าศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขานิกโก ซึ่งเป็นทรัพย์สินทางปัญญาแห่งประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ด้านบนคอกม้านั้นมีรูปแกะสลักลิง (ลิงสามตัว) ที่ให้ข้อคิดเสียดสีมนุษย์ และยังเป็นเรื่องราวที่เล่าต่อกันมานับหลายร้อยปี เริ่มจากด้านซ้ายจะเป็นลิงแม่สอนลูกให้รู้ถึงสิ่งชั่วร้าย ซึ่งแม่ลิงได้มองเห็นอนาคตของลูกตน ในวัยหนุ่มสาว จึงสอนลูกให้ออกห่างจากสิ่งเลวร้ายที่จะเข้ามาโดยการ ไม่ฟังสิ่งที่ไม่ดี ไม่พูดสิ่งที่ไม่ดี และการไม่ดูตัวอย่างในสิ่งที่ไม่ดี ไม่พึ่งประสงค์ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของลิงที่แฝงข้อคิดดีๆเรื่องราวอื่นๆ บริเวณรอบตัวคอกม้าอีกด้วย อิสระให้ท่านได้ชมภาพสลักลิงสามตัวที่งดงามและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านชม ประตูโยเมอิมง ซึ่งเป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่นอีกชิ้นหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง และยังเป็นประตูที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นประตูหนึ่งเลยทีเดียว จนได้รับขนานนามว่า ฮิคุราชิโนะเมง ประตูที่มีความงดงามมองเท่าใดก็มิรู้จักเบื่อ เฉกเช่นดั่งเหมือนถูกมนต์สะกดไว้ให้ตราตรีงใจมิรู้ลืม และยังมีงานแกะสลักนิทานพื้นบ้านหลากหลายเรื่องราวไว้ด้านบนให้ชมอีกด้วย อิสระให้ท่านได้ชมความงามที่ยิ่งใหญ่ของศิลปะงานก่อสร้างดังเดิมแบบฉบับญี่ปุ่นและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านสู่ภายในบริเวณหลักของศาลเจ้าโทโชกุ ให้ได้ท่านชมความงามของ ประตูคารามง ซึ่งเป็นประตูที่อนุญติให้เฉพาะผู้ที่มีสถานะและตำแหน่งชั้นสูงที่จะเข้าเฝ้าโชกุนในยุคสมัยเอโดะผ่านเท่านั้น ประตูนี้ยังตกแต่งด้วยชิ้นงานแกะสลักที่งดงามกว่า 600 ชิ้น โดยมีชิ้นงานโดดเด่นที่สุดคืองานแกะสลักมังกรบริเวณหน้าประตู และยังเป็นประตูที่ทาด้วยสีขาวพิเศษที่เรียกว่าโกฟุ ซึ่งทำจากเปลือกดินหายากอีกด้วย จึงถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สมบัติแห่งชาติญี่ปุ่น ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมภายใน ในช่วงเวลาพิเศษเท่านั้น เช่นวันปีใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังให้ท่าน ชมความงามของรูปแกะสลัก เนมูริ เนโกะ แมวขาวจุดดำแอบนอนหลับท่ามกลางดอกโบตั๋นแห่งนิโก้ ซึ่งซ้อนตัวอยู่ใต้หลังคาระเบียงคต ภายในศาลเจ้า ว่ากันว่าแกะสลักโดยท่าน จินโกโระ ฮิดาชิ ช่างมากฝีมือในสมัยยุคสมัยโบราณ ให้ความรู้สึกถึงทวงท่าอันแสนสบายของแมวที่มีความสุขในการนอนหลับพักผ่อนภายในพุ่มดอกโบตั๋นสีสวย และสิ่งนี้จะนำไปสู่สวรรค์โอคุมิยะ ตามตำนานแห่งญีปุ่น อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาชมความงามอันแสนลำค่าแห่งศาลเจ้าโทโชกุแห่งนี้ตามอิสระอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินท้าวกันต่อผ่านถนนทิวป่าสนอันสวยงาม และขึ้นบันไดอีกเล็กน้อยราว 200 ขั้นเพื่อเข้าชม ศาลเจ้าฟุตาระซัง ชาวญี่ปุ่นมักเรียกติดปากกันว่า ศาลเจ้านิกโกฟุตาระซัง ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ดังเดิม สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งภูเขาฟุตาระ (ภูเขานันไต) ซึ่งมีพระนามว่าเทพเจ้า โอนะมูจิ โนะ มิโกโตะ และยังเป็นศาลเจ้าที่มีผู้คนนิยมเดินทางมาสักการะขอพรในเรื่องโชคลาภ โชคดี และในเรื่องของความรัก รวมถึงขอพรในเรื่องการแต่งงานอีกด้วย ภายในโดนเด่นด้วยอาคารสีแดงส้มสง่างาม ทามกลางธรรมชาติและต้นส้นขนาดใหญ่ อิสระให้ท่านได้ขอพร เลือกเช่าหาวัตถุมงคล และถ่ายรูปตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านชม นิกโก ไทยูอิน สุสานทองคำสีดำ แห่งท่านอิเอมิตสึ โชกุนโทคุงาวะลำดับที่ 3 อาคารหลักถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ พร้อมกับศาลเจ้าโทโชคุ นำท่านเดินท้าวผ่านเส้นทาง ประตูนิโอมง ซึ่งเป็นประตูที่มีความโดดเด่นและสวยงามเหมือนได้เดินทางสู่สรวงสวรรค์ และยังมียักษ์โอนิ 2 ตนซ้ายขวามีนามว่า อาเกียว และ อุงเกียว (ยักษืโอนิหน้าเขียวเปิดปาก, ยักษ์โอนิหน้าแดงปิดปาก) ให้ท่านเข้าสู่บริเวณห้องโถงหลักซึ่งประดับด้วยแผ่นทองคำ และพื้นเพดานเป็นลวดลายมังกร น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก อิสระให้ท่าน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่พัก ในเขต คินุกาวะ ออนเซน แห่งตากอากาศแช่น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองนิกโก ซึ่งมีแม่น้ำคินุกาวะอันร่มรื่นและสวยงามและงดงามไหลผ่าน ทำให้มีบรรยากาศที่น่าพักผ่อนตลอดปี
เย็น รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก KINUGAWA PLAZA HOTEL หรือ เทียบเท่า
ให้ท่านได้สัมผัสกับการอาบน้ำแร่ หรือ ออนเซ็น (ONSEN) เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า การอาบน้ำแร่จะทำให้เลือดลมดี, ผิวพรรณสดใส, สุขภาพดี, ผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย
เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชมความงามของ สะพานแขวน คินุทาเทอิวะ โอสึริบาชิ ซึ่งเป็นสะพานแขวนที่เชื่อมสองฝั่งแม่น้ำคินุกาวะ ระหว่างเขตทาเทอิวะ และทางตอนใต้ของคินุกาวะออนเซน สะพานแห่งนี้มีความยาวราว 140 เมตร ปูพื้นด้วยไม้และมีราวจับทางเดินสีดำทำจากเหล็กรูปพรรณ ขึงด้วยสลิงที่สามารถแบกรับน้ำหนักตามแบบวิศวกรรมชั้นสูง เปิดบริการสำหรับใช้เป็นทางเดินข้ามแม่น้ำสัญจรไปมาของผู้คนในย่านนี้ ให้ท่านได้ถ่ายรูปคู่กับยักษ์ผู้พิทักษ์ดูแลดสะพานแห่งนี้ มีนามว่า ทาเทะคิ ชาวบ้านแทบนี้มีความเชื่อว่ายักษ์ทาเทะคิ เป็นผู้ทำหน้าที่เสมือนเป็นเกราะป้องกันภัยให้ เมืองคินุกาวะออนเซน ปลอดภัยและส่งต่อสิ่งดีๆไปยังวันพรุ่งนี้แก่บุตรหลาน อิสระให้ท่านใช้เวลาเดินเล่นชมวิวถ่ายภาพและชมความงามของสะพานแขวนแห่งนี้ตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเปลี่ยนบรรยากาศ ล่องเรือสำราญทะเลสาบชูเซนจิ ซึ่งอยู่เขตบริเวณโอคุนิกโก และเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเลมากที่สุดของประเทศญี่ปุ่น โดยมีผิวน้ำสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,269 เมตร และมีอายุเก่าแกมากกว่า 15,000 ปี จากการประทุของภูเขาไฟนันไต ให้ท่านชมทัศนียภาพความงามของทะเลสาบชูเซนจิและธรรมชาติที่สวยงาม มีปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายมากมาย รวมถึงวิวภูเขานันไตทางทิศเหนือของทะเลสาบ โดยระหว่างเส้นทางการเดินเรือ ท่านจะได้ชมความงามของ แหลมฮัตโจเดะจิมะ ที่งดงามราวดุดังภาพวาดของจิตรกรได้รังสรรค์ผลงานชิ้นเอก แต้มสีสันความสวยงามลงบนต้นไม้ด้วยสีแดง ส้ม เหลืองและน้ำตาล ลงบนผืนผ้าใบแห่งธรรมชาติ ในช่วงปลายตุลาคม – กลาง พฤศจิกายน ของทุกปี อิสระให้ท่านได้ล่องเรือและชมวิวทิวทัศน์ตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางชม น้ำตกริวสึ และจุดเช็คอินถ่ายรูปยอดนิยมแห่งเมืองนิกโก ให้ท่านได้เดินชมวิวบนเส้นทางธรรมชาติริมน้ำตก ยาวกว่า 210 เมตร ตลอดสองข้างทาง ท่านสามารถชมแมกไม้และดอกไม้ที่ขึ้นตามธรรมชาติ และใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง อีกทั้งเพลิดเพลินกับเสียงน้ำตกและทิวทัศน์อันงดงาม ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีรายการทีวีในประเทศญี่ปุ่นมาถ่ายทำบรรยากาศมากมาย เมื่อท่านเดินท้าวสู่จุดถ่ายรูป ก็จะพบกับบันไดน้ำตก ไหลหลับไปมา ทำให้เกิดเสียงกระทบหิน ดังเสียงดนตรีแห่งสายน้ำ หลังจากนั้นนำท่านเดินท้าวกันต่อจนถึงด้านล่างของน้ำตกริวสึ ซึ่งมีความสูงราว 60 เมตร และมีธาราไหลแบ่งออกเป็นสองสาย จนดูคล้ายเป็นน้ำตกคู่รัก ที่อยู่กลางพันธุ์ไม้นานาชนิด อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาอย่างเต็มที เดินเล่นถ่ายรูป และซื้อขนมญี่ปุ่นอร่อยๆ ของที่ระลึก ติดไม้ติดมื้อกลับบ้าน ตามอัธยาศัย
นำท่านเปลี่ยนบรรยากาศ นั่งกระเช้าลอยฟ้า อาเคจิไดระ (นั่งแบบไป-กลับ) ซึ่งเป็นกระเช้าขนาดใหญ่ที่นำทุกท่านไปจุดชมวิว ชมทิวทัศน์ที่งดงาม ท่านสามารถมองเห็นวิวภูเขานันไต ทะเลสาบชูเซ็นจิ และน้ำตกเคคอนได้อีกด้วย ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองนิกโกเป็นอย่างมาก ตัวกระเช้าเป็นกระเช่าสลิงเดียว มีกระจกรอบด้านทำให้สามารถ ชมทัศนีย์ภาพโดยรอบของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เดินทางถึงสถานีบนยอดเขา ซึ่งมีความสูงราว 1,373 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาชมความงามบนจุดชมวิว และดื่มด่ำกับอากาศบนยอดเขาตามอิสระอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ น้ำตกเคกอน แห่งเมืองนิกโก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น (อีกสองน้ำตกคือ น้ำตกฟุคุโรดะ เมืองอิบารากิ และ น้ำตกนาชิ แห่งเมืองวากายามะ) นำท่านลงลิฟต์ราว 60 วินาที สู่ชั้นด้านล่างของน้ำตกเคกอน ซึ่งมีควมสูงถึง 97 เมตร
และเดินท้าวลอดอุโมงค์ไปยังจุดถ่ายรูปชมวิว ซึ่งเป็นจุดเช็คอินยอดนิยมของตัวน้ำตกแห่งนี้ ให้ท่านได้ชมความงามของน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาถ่ายรูปเก็บภาพเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
ที่พัก KINUGAWA PLAZA HOTEL หรือ เทียบเท่า *พักโรงแรมเดียวกัน 2 คืน
ให้ท่านได้สัมผัสกับการอาบน้ำแร่ หรือ ออนเซ็น (ONSEN) เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า การอาบน้ำแร่จะทำให้เลือดลมดี, ผิวพรรณสดใส, สุขภาพดี, ผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย
เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองซาโนะ จังหวัดโทชิคิ นำท่านกราบขอพรเทพพญางูขาว ที่ปกปักรักษาธรรมชาติ ณ ศาลเจ้า อิโซยามะ เบนไซเทน กล่าวกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้สร้างโดยท่าน ฟูจิวาระ ฮิเดซาโตะ ราวปี 948 ตั้งอยู่บนไล่เขาตัวอาคารเป็นไม้เก่าโบราณมี 3 ชั้น และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์เมืองรวมถึงบริเวณที่ราบซาโนะได้อย่างสวยงาม (คล้ายกับวัดโคโยมิสึ จังหวัดเกียวโต ที่สร้างด้วยไม้และไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว) ปัจจุบันเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งศาลเจ้านี้ยังมีตำนานเกียวกับเทพเจ้าแห่งสายน้ำที่จำแลงกายเป็นพญางู เพื่อค่อยดูแลปกป้องสายน้ำให้ใส่สะอาดคงคุณค่าแห่งธรรมชาติให้ลูกหลาน อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาไหว้ขอพร และเดินชมวิวโดยรอบศาลเจ้าอันงดงาม
จากนั้นนำท่านเดินท้าวกันต่อเพื่อชมความงามของบ่อน้ำใส่แห่งซาโนะ ณ อิซารุฮะร่า เบนเทนอิเคะ ซึ่งเป็นบ่อน้ำธรรมชาติที่เกิดจากถ้ำหินปูนบนภูเขาแห่งนี้ น้ำจากตัวถ้ำได้ไหลหมุนเวียนลงมาสู่บ่อเบื้องล่างวันละมากกว่า 2,400 ลูกบาศก์เมตร จึงทำให้น้ำมีความใส่สะอาดมาก จนมองเห็นตัวปลาน้อยใหญ่สีสวยสดใส่ แหวกว่ายไปมาน่าชมยิ่งนัก อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาชมความงดงามของบ่อน้ำใส่และหามุมเก๋ๆถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ซาโนะ พรีเมียมเอาท์เล็ต แหล่งช้อปสินค้าไฮเอนด์ปิ้งสุดปังของจังหวัดโทชิคิ ซึ่งถ้าใครไปเที่ยวเมืองนิกโก จะก็แวะเวียนมาช้อปปิ้ง ณ ที่แห่งนี้ ให้ท่านสนุกกับการช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ดังจากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ อาทิเช่น ร้านทาคาชิม่ายะเอาท์เล็ต, Adidas, Nike, Brook & Brothers, Vans, Citizen, SEIKO, Puma, New Balance, Nishikawa, ARMANI, GAP, LEGO, Wacoal, GUCCI, Tommy, EDWIN, และอีกมากมาย อีกทั้งยังมีศูนย์อาหารขนาดใหญ่ ภายในมีอาหารและเครื่องดื่มมากมายให้ท่านเลือกซื้อเลือกชิมกัน อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาช้อปปิ้งกันอย่างเต็มที่ตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ในเขตไซตามะ (เมืองโคชิกายะ) ณ อิออนเลคทาวน์ ซึ่งว่ากันว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้ โดยถูกแบ่งออกเป็นโซน 3 โซนหลักคือ โซน Kaze, Aeon โซน Mori, และ โซน Outlet โดยจะมีทางเดินเชื่อมติดแอร์ในร่มสามารถเดินถึงกันได้ทุกโซนอย่างสะดวกสบาย โซนอิออนเลคทาวน์ คาเซะ อาคารจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟ โคชิกายะเลคทาวน์ สามารถเดินเข้าตัวห้างได้ด้วยทางออกทางทิศเหนือ ภายในห้างจะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหารไว้บริการมากมายสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้า รองท้าว ฯลฯ อาทิเช่น ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ ZARA เป็นต้น และยังมีโรงภาพยนต์ไว้ให้บริการอีกด้วย โซน อิออนเลคทาวน์โมริ เป็นโซนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ภายในรวมร้านค้าเสื้อผ้า เครื่องสำอาง ของใช้ภายในบ้านและร้านอาหารอร่อยๆมากมาย รวมทั้งศูนย์อาหารขนาดใหญ่ และซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสินค้าครบครัน รวมถึงขนมของกินมากมายที่มีให้ท่านเลือกซื้อหากันอย่างจุใจ โซน เลคทาวน์เอาท์เล็ต เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมขนาดใหญ่ มีทางเดินเป็นแบบโอเพ่นแอร์ที่โปร่งสบาย ภายในมีสินค้าทั้งเสือผ้าชั้นนำต่างประเทศ และแบรนด์ภายในประเทศญี่ปุ่นยี่ห้อต่างๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเลคทาวน์ และยังมีร้านกาแฟน่ารักๆ ให้นั่งชิวชมวิวทะเลสาบเพลินๆได้อีกด้วย หรือจะออกไปเดินรับลมริมทางเดินเรียบทะเลสาบก็แสนสบายๆชิวๆ ฟินได้ใจเลยทีเดียว อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาช้อปปิ้งอย่างเต็มทีตามอัธยาศัย ก่อนเดินทางเข้ากรุงโตเกียว
เย็น รับประทานอาหาร แบบอิสระตามอัธยาศัย (ไม่รวมค่าใช้จ่าย)
ให้ท่านได้เลือกร้านอาหารที่ถูกใจ รับประทานอาหารเย็น ภายใน อิออนเลคทาวน์
ที่พัก SUNSHINE CITY PRINCE HOTEL หรือ เทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ ศาลเจ้าคาโทริจิงกุ จังหวัดชิบะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่สำคัญในฐานะ จิงกุ 1 ใน 3 แห่งญี่ปุ่น (อีกสองแห่งคือ ศาลเจ้าอิเสะจิงกุ และ ศาลเจ้าคาชิมะจิงกุ และยังเป็นศาลเจ้าหลักจากจำนวนศาลเจ้าคาโทริ 400 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น มีประวัติความเป็นมากว่า 2,600 ปี ก่อตั้งในปีที่ 18 ของจักรพรรดิ จิมมุ (643 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ภายในมีบริเวณที่กว้างขวาง เริ่มจากบริเวณด้านหน้าบริเวณทางเข้าศาลเจ้าจะเป็นถนนซันโด มีร้านค้าให้เลือกซื้อสินค้าพื้นถิ่นมากมาย รวมถึงขนมดังโกะเจ้าดังแสนอร่อย
จากนั้นให้ท่านชม ประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่และนดินท้าวเข้าสู่ทางเดินธรรมชาติซันโดสู่ศาลเจ้า ระยะทางกว่า 500 เมตร ซึ่งโรยพื้นทางเดินด้วยกรวด และมีตะเกียงหินขนาดใหญ่ประดับไว้สองข้างทาง และยังเป็นทางเดินอุโมงค์ ป่าสนซีดาร์ และต้นไม้ที่เก่าแก่หลายชนิด อีกทั้งทางเดินนี้ยังมีต้นเมเปลิ้นและต้นซากุระ ที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และ สามารถชมดอกซากุระให้ช่วงฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย
เมื่อเดินถึงหน้าทางเข้าศาลเจ้าหลัก ท่านจะได้ชมความงามของประตูหินโทริอิ ถัดไปด้านหลังเป็นประตูชูนุริโนะโซมง ประตูสีแดงหลังคาโค้งแบบญี่ปุ่น ใช้เป็นทางเข้าหลักสูบริเวณศาลเจ้า ชาวญี่ปุ่นจะมาหยุดตรงจุดนี้และโค้งคำนับเพื่อแสดงเจตจำนงในความประสงค์ที่จะเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนำท่านชม ประตูโรมง ซึ่งสร้างในปีเกนโรคุ ที่ 13 พร้อมตัวศาลเจ้าหลัก มีอายุเก่าแก่ราว 1,700 ปี และถูกขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในปี 1981 และบริเวณด้านขวาหน้าทางเข้าประตูทางจะได้พบต้น โคมงซากุระ ซึ่งเป็นต้นซากุระที่เกิดจากรากเก่าโบราณของซากุระต้นเดิมในยุคต้นเริ่มก่อสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ ชาวญี่ปุ่นจึงนิยมมาชื่นชมดั่งเปรียบเสมือนว่าได้รับพลังแห่งการกำเนิดใหม่อีกครั้ง
เมื่อเข้าสู่ด้านในท่านจะได้พบกับห้องบูชา (ไฮเดน) สีดำที่มีลวดลายสีทองสลับสีสันที่สวยงาม เป็นสถาปัตยกรรมแบบกองเกน และมีหน้าจั่วที่สวยงาม (เป็นการบูรณะในปี 1933) โดยตัวอาคารจะเชื่อมกับศาลเจ้าหลัก (โฮนเดน) ซึ่งสร้างตั้งแต่ในสมัยเฮอันและถูกบูรณะโดยโชกุนโทคุงาวะในปี 1700 แต่ยังคงอนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมยุคสมัยดั่งเดิมได้อย่างสวยงาม ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นตัวแทนหลักแห่งศาลเจ้าคาโทริ ทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่น จนถึงปัจจุบัน และด้านซ้ายของตัวอาคารศาลเจ้านั้นท่านจะพบกับต้นสนซีดาร์ยักษ์ 3 พี่น้อง ที่เรียกว่า ซันโบนสึกิ ซึ่งมีช่องกลวงตรงกลางช่วงต้นไม้ลำดับที่สองคล้ายเป็นถ้ำต้นไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งแม้แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถเข้าไปยืนได้สบายๆ (ท่านสามารถเดินเข้าไปด้านในและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้) และด้านขวาของ Haiden ห้องบูชาสีดำ ท่านจะได้พบกับ โกชินโบคุ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีอายุมากกว่า 1000 ปี เส้นรอบวงราว 8 เมตร และมีความสูงถึง 33 เมตร อิสระให้ท่นได้ใช้เวลา ขอพรเทพเจ้าแห่งศาลเจ้าคาโทริจิงกุ และชมสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นที่ทรงคุณค่า และธรรมชาติในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเก่า ซาวาระ เป็นเมืองเก่าแก่ในสมัยยุคเอโดะจนถึงปัจจุบัน ให้ท่านถ่ายรูปคู่กับ สะพานโทโยฮาชิ สะพานไม้เก่าคลาสสิกซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมมาหามุมสวยๆถ่ายรูปเช็คอินกันเป็นอย่างมาก และจะกลายเป็นสะพานน้ำตก (เรียกกันว่าสะพาน จาอะ จาอะ) ทุกๆ 30 นาที ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 17.00 น. (จุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว) ซึ่งในสมัยก่อนนั้นน้ำในลำคลองนี้ใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการเกษตร และส่งน้ำผ่านคลองโอโนะคาวะไปยังทุ่งนาและพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน
จากนั้น ให้ท่าน ถ่ายภาพคู่กับบ้านเก่าแก่ ของท่าน อิโนะ ทาดะทากะ ซึ่งเป็นบ้านโบรณาเก่าแก่ที่สุดในเมืองซาวาระ จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติในปี 1930 ในสมัยก่อนอาคารหลังนี้เป็นโรงเหล้าสาเกซึ่งด้านหน้ามีร้านค้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลอิโนะ จากนั้น อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง แวะชิมขนมร้านอร่อย นั่งคาเฟ่เก๋ๆ และเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกกันตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองโตเกียว นำท่านเดินทางสู่ ย่านชินจุกุ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นร้าน BicCamera , และ Yodobashi Camera ที่มีสินค้าประเภทกล้องถ่ายรูป นาฬิกา เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆมากมาย ฯลฯและยังมี ร้านสินค้าน่ารักๆ และ ของกระจุกกระจิก ณ Tokyu hands, ร้านเสื้อผ้ายี่ห้อ MUJI, ร้าน ของฝาก ดองกี้ Don Quijote, ช้อปเครื่องสำอางแบรนด์ดังของญี่ปุ่นแบบปลอดภาษี ณ ร้าน Matsumoto Kiyoshi, หรือ
เลือกซื้อรองท้าวผ้าใบสวยๆ ในร้าน ABC Mart, เป็นต้น นอกจากนี้ ย่านชินจูกุ ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ และ ร้านขนมมากมายให้ท่านได้แวะพักเติมแรงในระหว่างช้อปปิ้ง รวมถึงแวะชมเจ้าแมวยักษ์สามสี 3D บนยอดอาคาร ใกล้กับสถานีรถไฟชินจุกุ ซึ่งมีหน้าจอของป้ายโฆษณาขนาดใหญ่และโค้งดูสวยงามสะดุดตา สร้างขึ้นโดย Cross Shinjuku Vision และให้บริการโฆษณาพร้อมส่งเสียงร้องเงี้ยวๆ ครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมา (หากหมดสัญญาเช่า อาจเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการอื่นมาโฆษราแทน) อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาเดินดูสินค้าและช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหาร แบบอิสระตามอัธยาศัย (ไม่รวมค่าใช้จ่าย)
ให้ท่านได้เลือกร้านอาหารที่ถูกใจ รับประทานอาหารเย็น ณ ย่านชินจุกุ
ที่พัก SUNSHINE CITY PRINCE HOTEL หรือ เทียบเท่า *พักโรงแรมเดียวกัน 2 คืน
เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านชมตลาดเก่ายามเช้า ณ ตลาดสึกิจิ (ตลาดนอก) ตั้งอยู่ในเขตชูโอ เปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1935 เดิมในสมัยก่อนที่ตั้งปัจจุบันของตลาดสึกิจิ คือที่พักอาศัยเดิมของท่าน ซาดาโนบุ มัตสึไดระ สมาชิกสภาอาวุโสในสมัยการปฏิรูปคันเซ ซึ่งแบ่งเป็นตลาดเป็นสองโซน คือ ตลาดนอกและตลาดใน (ตลาดประมูลปลา) ต่อมาตลาดในสึกิจิ ได้ย้ายไปอยู่ที่ ในเขตโทโยสุ แต่ตลาดนอกไม่ได้ย้าย แต่ได้ทำการปรับปรุงจนกลายเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบชิมอาหารประเภทฟู้ดสตรีท มีทั้งอาหารคาวหวาน ซึ่งมีร้านอาหารอร่อยๆฝีมือปรุงอาหารระดับร้านดังไฮเอน รังสรรค์ของอร่อยที่สามารถเดินไปกินไป ไว้ให้เลือกชิมมากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งค่าส่งปลีกอาหารทะเลที่สำคัญของโตเกียวอีกด้วย อิสระให้ท่านได้เดินเล่นเลือกชิมของอร่อยกันตามอัธยาศัย
จากนำท่านถ่ายรูป ณ สะพานนิจูบาชิ สะพานโค้งคู่ที่เชื่อมระหว่างเขตพระราชวังอิมพีเรียลที่งดงาม คนญี่ปุ่นเรียกสะพานแห่งนี้ว่า เมกะเนบาชิ ซึ่งแปลว่า ”สะพานแว่นตา” อันเกิดมาจากภาพสะท้อนของสะพานกับบ่อน้ำจนดูเหมือนกับแว่นตานั่นเอง (ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมาชมสะพานแห่งนี้ แล้วสามรถมองเห็นภาพสะทอนเป็นแว่นตาคือ วันที่ฟ้าปลอดโปร่งและมีแดด) รถบัสของเรานำท่านจอดพักรถ ณ อนุสาวรีย์ คูซูโนกิ มาซาชิเงะ ซามูไรในช่วงต้นยุคมูโรมาจิ ผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระจักรพรรดิญี่ปุ่น (สร้างในยุคเมจิ) ซึ่งเป็นแบบที่ดีอย่างให้แก่กองกำลังคามิกาเซะแห่งญี่ปุ่น จนถึงปัจจุบัน อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูป และชมทัศนีย์ภาพตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านชม และ ขอพร ณ วัดเซนโซจิ หรือ วัดอาซากุสะ ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ และ มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโตเกียว พร้อมทั้งนมัสการขอพรจากองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ ซึ่งอยู่ด้านในอุโบสถ พร้อมทั้งเก็บภาพประทับใจกับโคมไฟแดงขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตรซึ่งแขวนอยู่บริเวณประตูทางเข้าวัด จากนั้นให้เวลาท่านได้เลือกหาเช่าบูชาเครื่องรางวัตถุมงคลภายในวัด และเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง ณ ถนนนาคามิเซโดริ
ที่เต็มไปด้วยของอร่อย และ ของฝากน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น ร้านขนมโบราณ เช่น ขนมไทยากิ เจ้าปลาน้อยไส้ถั่วแดงนุ่มๆแสนอร่อย ที่อบกันสดๆใหม่ๆทุกวัน, ขนมโมจิทอด, ขนมโดรายากิชิ้นโตที่ขี้นชื่อ และ เป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน รวมทั้งยังมีร้านค้าอีกมากมาย ที่รอให้ท่านเลือก่ชิมเลือกซื้อตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านไปยังจุดถ่ายรูป มุมสวยๆ ณ สวนสุมิดะ ให้ท่านเก็บภาพคู่กับ โตเกียว สกายทรี หรือ โตเกียวทาวเวอร์แห่งใหม่ ซึ่งเป็นหอกระจายคลื่นสัญญานการสื่อสารที่สูงที่สุดในกรุงโตเกียว ตั้งอยู่ที่เขตสุมิดะ ใกล้กับอาคารอาซาฮี (ตึกคล้ายแก้วเบียร์ขนาดใหญ่สีทองสว่างสดสวย) โตเกียวสายทรีนั้น ปัจจุบันเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีความสูงถึง 634.00 เมตร เลยทีเดียว อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย
นำท่านกราบนมัสการขอพร ณ ศาลเจ้าเมจิจิงกุ ซึ่งเป็นศาลเจ้าสำคัญแห่งกรุงโตเกียว ตั้งอยู่ในเขตชิบุย่า โอบล้อมด้วยสวนโยโยอิ สวนป่าขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่กว่า 700,000 ตารางเมตร มีต้นไม้หลากสายพันธุ์ที่ได้รับบริจากเข้ามาจากทั่วประเทศญี่ปุ่นกว่า 100,000 ต้น ทำให้พื้นที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียว ให้บรรยากาศร่มรื่นยิ่งนัก (ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีความโรแมนติกมาก) ภายในศาลเจ้าเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าจักรพรรดิเมจิ องค์ที่ 122 และจักรพรรดินีโชเก็น สร้างขึ้นในปี ไทโช 9 ตรงกับ ค.ศ. 1920 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่ดวงวิญญาณของทั้งสองพระองค์ ซึ่งประชาชนให้ความคารพและบูชาคุณธรรมอันศักดิ์สิทธิ์อย่างมากมาโดยตลอดมา ช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีผู้คนจากทั่วญี่ปุ่น ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นมากมายเข้ามากราบขอพร และยังเป็นศาลเจ้าที่มีพิธีสวดมนต์ภาวนา ให้กับเด็กๆ และครอบครัว เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย อิสระให้ท่านได้กราบขอพร เช่าหาวัตถุมงคล เดินชมสวนป่ากันตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางไปย่านช้อบปิ้ง ฮาราจูกุ แหล่งรวมเสื้อผ้า, เครื่องประดับ, รองเท้า ของใช้วัยรุ่นญี่ปุ่นมากมาย ท่านจะได้พบกับเสื้อผ้าแบบแปลกๆสมัยใหม่ เสื้อผ้าแนว Cost Play ร้านขายกางเกงยีนส์เท่ๆ และยังสามารถเห็นวัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งกายแต่งหน้าแบบแปลกๆ รอบย่านฮาราจุกุ โดยเฉพาะบริเวณใกล้สะพาน จะมีวัยรุ่นญี่ปุ่นแต่งตัวน่ารักๆ เดินกันเต็มถนน โดยเฉพาะวันเสาร์จะมีการปิดถนนเป็นถนนคนเดินบนถนนสาย แบรนด์เนม โอโมโตะซานโดะ อีกด้วย นอกจากนี้ หาท่านชื่นชอบสินค้าแบรนด์ดัง อาทิเช่น Louis Vultton, Doir, Channal, รวมถึงแบรนด์ Onitsuka Tiger ที่ผลิดโดยประเทศญี่ปุ่น (Made in Japan), กระเป๋าสุดฮิต Bao Bao
Issey Miyake, ก็มีให้เลือกซื้อเลือกหามากมาย อีกทั้งยังมีร้านขายตุ๊กตา ที่เอาใจน้องหนู ไม่ว่าจะเป็น Kitty, Doraenmon, หรือจะเป็นตุ๊กตา Line ที่สุดแสนจะน่ารัก ไว้รอให้ท่านได้มาเดินยาวๆ เลือกซื้อหากันอย่างมากมาย อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาเดินเล่น ช้อปปิ้งกันตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ ย่านชิบุยะ ศูนย์กลางแฟชั่นวัยรุ่นในกรุงโตเกียว ให้ท่านหามุมถูกใจถ่ายภาพคู่กับฮาจิโกะรูปปั้นสุนัขแสนรู้ที่กลายเป็นจุดนัดพบยอดฮิตสำหรับหนุ่มสาวโตเกียว ณ บริเวณหน้าสถานีรถไฟชิบุย่า จากนั้นเดินท้าวข้ามแยกที่โด่งดังไปทั่วโลก Shibuya Crossing และ มองหา เจ้าน้องสุนัขพันธุ์อากิตะยักษ์ ที่จะวิ่งเล่น
บนป้ายโฆษณาขยายยักษ์ 8 จอ ที่สามารถมองเห็นเจ้าน้องหมาวิ่งเล่นรอบนาฬกากลไก กระโดนไปข้ามถัดไปอย่างสนุกสนาน ในทุกๆเวลาศุนย์นาทีของทุกชั่วโมง จากนั้นให้ท่านได้ใช้เวลาช้อปปิ้งกันต่อ ณ Miyashita Park สวนลอยฟ้าและแหล่งกินดื่มขนาดใหญ่ย่านใจกลางชิบูย่า ซึ่งเปิดตัวในเดือน กรกฎาคม 2020 ภายในมีศูนย์การค้า ร้านค้า ร้านอาหาร สินค้าแบรนด์เนมชื่อดังกว่า 90 ร้าน ชั้นบนเป็นสวนลอยฟ้า ที่ร่มรื่นเขียวขจีและสามารถเดินเล่นได้ รวมถึงยังมีโรงแรม Sequence Miyashita Park ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกันอีกด้วย อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง และเลือกซื้อเลือกชิมขนมของอร่อย จับจ่ายติดไม้ติดมือกลับบ้านกันตามอัธยาศัย
จากนั้นให้ท่านได้ช้อปปิ้ง ณ ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ซึ่งมีสินค้าหลากหลายประเภทให้ท่านเลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นเสือผ้า รองท้าวกีฬา เครื่องประดับ เครื่องครัว เครื่องใช้ฟ้า นาฬิกา ฯลฯ รวมทั้งซูปเปอร์มาเก็ตญี่ปุ่น ที่รวบรวมของกิน เครื่องดื่ม เครื่องปรุงต่างๆ และขนมอร่อยยอดฮิตต่างๆ ที่ท่านชื่นชอมไว้ในที่เดียว อิสระให้ท่านได้ใช้เวลาเต็มที่กับการจับจ่ายเลือกหาสินค้าญี่ปุ่น ก่อนกลับเมืองไทย
(หากท่านประสงค์จะซื้อสินค้าประเภทใด สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่พี่ ไกด์ประจำรถบัสคณะเดินทาง)
กลางวัน/เย็น รับประทานอาหาร แบบอิสระตามอัธยาศัย (ไม่รวมค่าใช้จ่าย)
หลังจากที่เครื่องออกเดินทาง ทางการบินไทยก็จะบริการอาหารค่ำและเครื่องดื่มบริการให้ท่านให้ท่าน
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
00.20 น. นำท่านเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Thai Airway เที่ยวบินที่ TG 661
05.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ
วันที่เดินทาง | ราคาเริ่มต้น | จำนวนคน | |
---|---|---|---|
25 Oct 2024 - 31 Oct 2024 | ฿ 69,900 | ||
06 Nov 2024 - 12 Nov 2024 | ฿ 68,900 | ||
08 Nov 2024 - 14 Nov 2024 | ฿ 68,900 | ||
12 Nov 2024 - 18 Nov 2024 | ฿ 68,900 |
รหัส : SPSJP183
รหัส : SPSJP182
รหัส : SPSJP181
รหัส : SPSJP178
รหัส : SPSJP177