ททท : 11/11519
Header

Miracle of Lijing ลี่เจียง แชงกรีล่า เต๋อชิง

ข้อมูลเกี่ยวกับทัวร์นี้

  • รหัสทัวร์: SPSCN369
  • ราคาเริ่มต้น: ฿ 18,999
  • 5 วัน 4 คืน
  • จีน
  • 15 May 2025 - 21 Oct 2025
  • Ruili Airlines
ปฏิทิน

ไฮไลท์ทัวร์

  • สวนดอกไม้ทิงฮวากู - แชงกรี-ล่า - เมืองเก่าจงเตี้ยน
  • โค้งแรกแม่น้ำทรายทอง - จุดชมวิวภูเขาหิมะเหมยลี่ - วัดเฟยไหล
  • วัดซงจ้านหลิน - ทุ่งหญ้านาผาไห่ - ช่องแคบเสือกระโจน
  • คาเฟ่ YUN TI YANG - เมืองโบราณลี่เจียง - สระมังกรดำ (เหยหลงถัน)

แผนการเดินทาง

  • วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินลี่เจียงซานยี่

    10.40 น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 นำคณะเชคอิน ณ เคาน์เตอร์ สายการบินรุยลี่แอร์ไลน์ (DR) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

    13.40 น. ออกเดินทางสู่ เมืองลี่เจียง ประเทศจีน โดยเที่ยวบินที่ DR5042 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)

    17.40 น. เดินทางถึง สนามบินลี่เจียงซานยี่ (เวลาท้องถิ่นที่จีน เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน

    ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
    จากนั้น พักที่ LIJIANG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

  • วันที่สอง สวนดอกไม้ทิงฮวากู - แชงกรี-ล่า - เมืองเก่าจงเตี้ยน

    เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
    จากนั้น นำท่านไปยัง สวนดอกไม้ทิงฮวากู ชมทิวทัศน์ดอกไม้ธรรมชาติที่ติดกับภูเขาหิมะมังกรหยก สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้สี่ฤดู ทิวทัศน์ชนบท และฉากหลังเป็นภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายภาพหรือไปพักผ่อนอย่างผ่อนคลาย สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่ บ้านฮอบบิท โบสถ์สีขาว สนามหญ้าใต้ภูเขาหิมะ ซึ่งในแต่ละเดือนทะเลดอกไม้ทั้งสี่ฤดูจะผลิบานตามฤดูกาล ดังนี้

    – ฤดูใบไม้ผลิ – ดอกทิวลิป ดอกเรพซีด ดอกป๊อปปี้

    – ฤดูร้อน – ลาเวนเดอร์ ดอกทานตะวัน ดอกไฮเดรนเยีย

    – ฤดูใบไม้ร่วง – หญ้ามู่ลี่ห์สีชมพู ดอกเบญจมาศ

    – ฤดูหนาว – ดอกซากุระในฤดูหนาว พร้อมทัศนียภาพภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ

    (หมายเหตุ: ดอกไม้จะผลิบานช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม-กันยายนของทุกปี ซึ่งปริมาณดอกไม้มากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี กรณีในเดือนที่ดอกไม้ยังไม่บาน หมดฤดูกาลก่อนกำหนด หรือไม่สามารถไปชมดอกไม้ได้ด้วยเหตุปัจจัยอื่นๆ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ปรับโปรแกรมทดแทนเป็น “สะพานแก้วกระจกลี่เจียง” (รวมค่ารถแบตเตอรี่) สะพานกระจกที่ทอดผ่านหุบเขาเหวลึกด้วยความยาวกว่า 137 เมตร สร้างจากกระจกที่มีความแข็งแรงสูงสามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 16 ตัน ที่ถูกโอบล้อมด้วยทัศนียภาพสวยๆ ของภูเขาน้อยใหญ่)

    กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    จากนั้น ออกเดินทางสู่ แชงกรี-ล่า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง) เมืองที่เปรียบได้กับสวรรค์บนดิน ซึ่งนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกปรารถนาจะได้มาสัมผัสบรรยากาศอันหนาวเย็นของเมือง ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือสุดของมณฑลยูนนาน

    นำท่านเดินทางสู่จุด ธงมนต์อธิฐาน หรือ “ธงภาวนา” เป็นสิ่งสำคัญในวัฒนธรรมทิเบต และพบได้ทั่วไปในพื้นที่ภูเขาสูงอย่างเมืองแชงกรี-ล่า ซึ่งธงเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของคำอธิษฐาน และพลังบวกที่ถูกส่งออกไปในสายลม เชื่อกันว่าธงจะนำพาความสุข ความสงบ และความเจริญรุ่งเรือง สีทั้งห้า น้ำเงินท้องฟ้า ขาวเมฆ แดงไฟ เขียวน้ำ และเหลืองดิน สีเหล่านี้เป็นตัวแทนของธาตุทั้งห้าในธรรมชาติและความสมดุล

    นำท่านย้อนอดีตสัมผัสบรรยากาศ เมืองเก่าจงเตี้ยน เมืองเล็กๆ ทีสร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบจีน บ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ในสไตล์ทิเบต ที่ดัดแปลงให้กลายเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านของที่ระลึกและเกสต์เฮาส์ แต่เดิมเป็นถิ่นฐานของชาวทิเบต ผู้คนในเมืองยังคงแต่งกายพื้นเมือง ตกเย็นบริเวณลานกลางเมืองจะมีชาวเมืองมารวมตัวกัน ยืนล้มเป็นวงกลมใหญ่ๆ เพื่อออกกำลังกายกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเป็นภาพน่ารักๆ ที่หาดูได้ไม่ยากเมื่อมาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้

    ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
    จากนั้น พักที่ XIANG GE LI LA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

  • วันที่สาม เมืองเต๋อชิง - โค้งแรกแม่น้ำทรายทอง - จุดชมวิวภูเขาหิมะเหมยลี่ - วัดเฟยไหล

    เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
    จากนั้น ออกเดินทางสู่ เมืองเต๋อชิง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที) ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งชาวทิเบต เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในหุบเขามีความสูงถึง 4,000 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาระหว่างเทือกเขาหิมะเหมยลี่และไป๋หมาง และเป็นเมืองที่อยู่เหนือสุดของมณฑลยูนนาน ระหว่างทางนำท่านชม โค้งแรกแม่น้ำทรายทอง (แม่น้ำแยงซีเกียง) จุดที่แม่น้ำได้หักโค้งจนเกิดเป็นโค้งน้ำที่สวยงาม มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “โค้งหัวเต่า” ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหัวเต่านั่นเอง

    กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    จากนั้น ชมความยิ่งใหญ่ของภูเขาหิมะอันศักดิ์สิทธิ์ จุดชมวิวภูเขาหิมะเหมยลี่ ถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 ของภูเขาแห่งเทพทั้ง 8 ของทิเบต และปัจจุบันยังไม่มีผู้ใดสามารถพิชิตยอดเขาได้ เปรียบเหมือนดั่งสาวพรหมจรรย์ที่ไม่เคยต้องชายใด ความสูงโดยเฉลี่ย 6,000 กว่าเมตร ซึ่งยอดที่สูงที่สุดสูงถึง 6,740 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ภูเขาหิมะเหมยลี่มีทัศนียภาพที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่แฝงไว้ด้วยความลึกลับ สภาพแวดล้อมแปรเปลี่ยนไปตามฤดูต่างๆ มีธารน้ำแข็งที่กินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ และหิมะที่ปกคลุมยอดเขาตลอดทั้งปี ในเทือกเขาประกอบไปด้วยภูเขาทั้งหมด 13 ยอด ถูกขนานนามว่าเป็นบุตรแห่งกษัตริย์ทั้ง 13 หรือที่เรียกกันว่า “คาวาเกโป” โดยบริเวณใกล้ๆ จะมีสถูปสีขาวสไตล์ทิเบต เจดีย์ 13 องค์ เป็นตัวแทนยอดเขาแต่ละยอด

    นำท่านเดินทางสู่ วัดเฟยไหล เป็นวัดที่ชาวทิเบตมักจะเดินทางมาสักการะบูชาภูเขาเทพ ซึ่งตัววัดนั้นหันหน้าเข้าหายอดเขาคาวาเกโปของภูเขาหิมะอันศักดิ์สิทธิ์ ชาวทิเบตมีความเชื่อว่า ..การได้มากราบไว้ ณ ที่แห่งนี้ เหมือนได้มากราบไหว้ยอดเขาที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาประทับ.. และวัดนี้ยังเป็นโลเคชั่นที่ดีที่สุดในการชมวิวภูเขาหิมะเหมยลี่แบบพาโนราม่าอีกด้วย บริเวณลานกลางวัดจะมีสถูปเจดีย์สีขาวที่สวยงามตั้งเรียงอยู่ทั้งหมด 8 องค์ มีแผ่นหินที่สลักด้วยภาษาทิเบต และตามรั้วจะถูกประดับไปด้วยธงมนตรา 5 สี ซึ่งธงแต่ละสีเป็นตัวแทนของบทสวดมนต์แต่ละคำ “โอม มณี ปัท เม ฮุม” เมื่อสายลมพัดพาธงเหล่านั้นให้ปลิวไสว บทสวดมนต์ก็จะลอยไปรอบๆ เป็นการปกป้องให้ชาวทิเบตนั้นได้อยู่กับธรรมชาติอย่างปลอดภัย

    ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
    จากนั้น พักที่ DE QIN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

  • วันที่สี่ วัดซงจ้านหลิน - ทุ่งหญ้านาผาไห่ - ช่องแคบเสือกระโจน - เมืองลี่เจียง

    เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
    จากนั้น นำท่านสักการะ วัดลามะซงจ้าหลิน (วัดโปตาลาน้อย) ศูนย์กลางศาสนาพุทธของชาวทิเบตในแชงกรี-ล่า เป็นวัดนิกายลามะที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลยูนนาน สร้างตาม แบบพระราชวังโปตาลาของกรุงลาซา ตัววัดตั้งอยู่บนภูเขาสูง มีหลังคาสีเหลืองทองอร่ามสามารถมองเห็นได้จากที่ไกลๆ วิหารหลังใหญ่ถูกล้อมรอบด้วยวิหารเล็กจำนวน 8 หลัง ด้านในเป็นสถานที่รวบรวมพระพุทธรูปทองคำ พระคัมภีร์โบราณ และสมบัติล้ำค่ามากมาย ในช่วงเทศกาลชาวทิเบตที่นี่ยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิมเอาไว้ ด้วยการเต้นระบำหน้ากากและเป่าแตรงอน

    นำท่านชมความสวยงามของ ทุ่งหญ้านาผาไห่ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 3,000 เมตร เป็นทะเลสาบที่ราบสูงตามฤดูกาล บางครั้งก็เป็นทะเลสาบพื้นที่ชุ่มน้ำที่ราบสูง บางครั้งก็เป็นทุ่งหญ้าอัลไพน์ Guiqing Grassland มีทั้งฝูงม้า ฝูงจามรี ทะเลสาบ และทุ่งหญ้าสีเขียวขจีรวมอยู่ในที่เดียว วิวข้างหลังเป็นภูเขาโอบล้อมทะเลสาบ นอกจากนี้ ยังสามารถเช่าชุดพื้นเมืองทิเบตมาใส่ถ่ายรูปที่นี่ได้อีกด้วย

    กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
    จากนั้น ออกเดินทางสู่ เมืองลี่เจียง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองที่มีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปมากกว่า 800 ปี เคยเป็นจุดแลกเปลี่ยนค้าขายสินค้าตามเส้นทางสายเก่า Tea Horse เป็นเส้นทางค้าขายโบราณสุดคดเคี้ยวที่ใช้คาราวานม้าเป็นพาหนะในการขนส่งใบชา ระหว่างทางนำท่านชม ช่องแคบเสือกระโจน (ตรอกเสือกกระโจน) ช่องระหว่างหุบเขาเหนือแม่น้ำแยงซีเกียง ซึ่งอยู่ระหว่างทางจากเมืองลี่เจียงไปเมืองจงเตี้ยน อันเป็นบริเวณมีสายน้ำที่ไหลผ่านระหว่างภูขาหิมะทั้งสองลูก ส่วนที่แคบที่สุดมีความกว้างเพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น ตามตำนานได้เล่าขานต่อๆ กันมาว่า ในอดีตเคยมีเสือกระโดดข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ ตรงบริเวณกลางลำน้ำที่เชี่ยวกรากมีก้อนหินใหญ่ผุดขึ้นมา ได้ชื่อว่า “หินเสือกระโดด” จึงเป็นที่มาของชื่อช่องแคบเสือกระโจนนั่นเอง (ไม่รวมค่าบันไดเลื่อน ขึ้น-ลง ราคาประมาณ 70 หยวน)

    ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร มื้อพิเศษ!! สุกี้แซลมอน
    จากนั้น พักที่ LIJIANG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

  • วันที่ห้า เมืองโบราณไป๋ซา - คาเฟ่ YUN TI YANG - เมืองโบราณลี่เจียง - สระมังกรดำ (เหยหลงถัน)

    เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
    จากนั้น นำท่านไปยัง เมืองโบราณไป๋ชา ชมบรรยากาศและเดินเล่นไปตามถนนบลูสโตนของเมืองโบราณ อีกหนึ่งหมู่บ้านที่ยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมนาซีแบบจีนโบราณ โดยหมู่บ้านไป๋ซาเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของลี่เจียงในสมัยราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์หยวน เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ไม่ว่าโลกภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรผู้คนที่นี่ยังคงใช้ชีวิตอย่างช้าๆ ภายในเมืองโบราณมีค่าเฟ่มากมาย หากไปเที่ยววันที่ฟ้าปลอดโปร่งจะเห็นวิวภูเขาหิมะมังกรหยกได้ชัดเจนมากๆ นำท่านเดินทางสู่จุดชมวิวภูเขาหิมะมังกรหยกที่กำลังเป็นที่นิยม YUN TI YANG CAFÉ หรือในภาษาไทยแปลว่า “สวนกาแฟริมฝั่งเมฆ” เป็นคาเฟ่ที่มีวิวฉากหลังสุดอลังการเป็นภูเขาหิมะมังกรหยกอันสวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันมาเช็คอินแบบไม่ขาดสาย (รวมเครื่องดื่มท่านละ 1 แก้ว)

    กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร มื้อพิเศษ ขนมจีนข้ามสะพาน

    จากนั้น ชมความสวยของ สระมังกรดำ สระนำที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในเมืองลี่เจียง รายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ อาทิ สะพานหิน ศาลากลางน้ำ และวิหารต่างๆ ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวจากศิลปะของทั้งสามเผ่าพันธุ์เข้าไว้ด้วยกัน (ชาวฮั่น ชาวทิเบต และชาวนาซี) น้ำในสระเป็นน้ำที่ไหลลงมาเกิดจากการละลายของหิมะด้านบนภูเขาหิมะมังกรหยก ทำให้น้ำมีสีใสราวกับมรกตสะท้อนกับฉากหลังภูเขาหิมะอันยิ่งใหญ่

    เยือนเมืองเก่าสุดคลาสสิค เมืองโบราณลี่เจียง ดินแดนเวนิสแห่งโลกตะวันออก ทั้งเมืองคือมรดกโลกที่ได้รับการประกาศจากยูเนสโกเป็นเมืองโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “เมืองโบราณต้าเหยียน” ตั้งอยู่ริมลำธาร มีอายุย้อนหลังไปกว่า 800 ปีมาแล้ว เมืองโบราณนี้ก่อสร้างด้วยไม้ ไม่มีกำแพงเมือง เป็นอาคารยาวบ้านแบบโบราณ ต่อเนื่องกันไปตามลำธาร แผ่กระจายจนเกิดเป็นเมืองขนาดใหญ่ โครงสร้างของเมืองเป็นแบบยืดหยุ่นบ้านเรือนปลูกติด ๆ กัน ถนนภายในเมืองปูด้วยหินเรียบลื่นก้อนใหญ่เรียงตัวกันเป็นถนนแคบๆ พาดผ่านขนานไปกับลำธารเล็กๆ ที่ละลายไหลมาจากหิมะบนเทือกเขามังกรหยก มีต้นหลิวเป็นทิวแถวพลิ้วไหวตามสายลม มีสะพานเล็กๆ หลากรูปแบบกว่า 300 สะพานทอดตัวข้ามจากถนนเส้นกลาง ลิ้มรสจากร้านอาหารมากมาย รวมทั้งช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์พื้นเมืองต่างๆ เป็นของฝาก โดยสินค้าที่ระลึกที่นี่มีอักษรตงปาของชาวน่าซีเป็นเอกลักษณ์บนสินค้าแทบทุกชิ้น ทั้งยังประดับประดาเมืองด้วยอักษรนี้อยู่ทั่วไปทั้งเมืองเช่นกัน สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองโบราณลี่เจียงคือ กังหันน้ำขนาดใหญ่บริเวณจัตุรัสอวี้เหอ และติดกันมีแผ่นป้ายพร้อมลายมือของอดีตประธานาธิบดีจีน เจียงเจ๋อหมินว่า “เมืองเก่าลี่เจียง มรดกโลกทางวัฒนธรรม” เพียงท่านก้าวผ่านประตูทางเข้าเมืองเก่าก็เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบดั่งย้อนเวลากลับไปในอดีต ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนถูกต้องมนต์สะกดกับภาพความงดงามของมรดกโลกล้ำค่าแห่งนี้

    ค่ำ  บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
    จากนั้น พักที่ LIJIANG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

  • วันที่หก สนามบินลี่เจียงซานยี่ - สนามบินสุวรรณภูมิ

    เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
    ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน

    11.00 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ DR5041 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)

    12.50 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม

วันที่เดินทาง ราคาเริ่มต้น จำนวนคน
15 May 2025 - 20 May 2025 ฿ 18,999
22 May 2025 - 27 May 2025 ฿ 18,999
29 May 2025 - 03 Jun 2025 ฿ 20,999
05 Jun 2025 - 10 Jun 2025 ฿ 19,999
12 Jun 2025 - 17 Jun 2025 ฿ 19,999
19 Jun 2025 - 24 Jun 2025 ฿ 19,999
26 Jun 2025 - 01 Jul 2025 ฿ 19,999
03 Jul 2025 - 08 Jul 2025 ฿ 21,999
10 Jul 2025 - 15 Jul 2025 ฿ 22,999
17 Jul 2025 - 22 Jul 2025 ฿ 21,999
24 Jul 2025 - 29 Jul 2025 ฿ 22,999
31 Jul 2025 - 05 Aug 2025 ฿ 21,999
07 Aug 2025 - 12 Aug 2025 ฿ 22,999
14 Aug 2025 - 19 Aug 2025 ฿ 21,999
21 Aug 2025 - 26 Aug 2025 ฿ 21,999
28 Aug 2025 - 03 Sep 2025 ฿ 21,999
04 Sep 2025 - 09 Sep 2025 ฿ 21,999
11 Sep 2025 - 16 Sep 2025 ฿ 21,999
18 Sep 2025 - 23 Sep 2025 ฿ 21,999
25 Sep 2025 - 30 Sep 2025 ฿ 21,999
09 Oct 2025 - 14 Oct 2025 ฿ 22,999
16 Oct 2025 - 21 Oct 2025 ฿ 21,999

ทัวร์ที่คล้ายๆกัน