- 6 วัน 3 คืน
รหัส : SPSRS003
ราคาเริ่มต้น ฿59,988
23.00 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิอาคาร
ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 สายการบิน EMIRATES AIRLINE เคาน์เตอร์ T ประตู 9 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
02.40 น. เหิรฟ้าสู่ ดูไบ DXB โดยสายการบิน EMIRATES AIRLINE เที่ยวบินที่ EK377 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.00 น. เดินทาง ถึงสนามบินประเทศดูไบ (DXB)
*** เที่ยวบินหรือเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขึ้น อยู่กับสายการบินเป็นผู้กำหนด ***
ขอสงวนสิทธิ์ในการเลือกที่นั่งบนเครื่องบินเนื่องจากเป็นตั๋วกรุ๊ป การจัดที่นั่งเป็นระบบ RANDOM ไม่สามารถเลือกที่นั่งได้ที่นั่งอาจจะไม่ไดนั่งติดกัน ทั้งนี้เป็นไปตามเงื่อนไขของสายการบิน
09.45 น. เหิรฟ้าสู่ มอสโคว โดยสายการบิน EMIRATES AIRLINE เที่ยวบินที่ EK133
14.15 น. เดินทางถึงสนามบินวนูโคโว กรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย
(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ
นำท่านขึ้นสู่ ยอดเขาสแปร์โรว์ฮิล หรือเลนินฮิลส์ (SPARROW HILLS) หรือเนินเขานกกระจอกเป็นบริเวณที่มองเห็นทัศนียภาพ ของนครมอสโควที่อยู่เบื้องล่างได้โดยทั้งหมด จึงทำให้เลนินผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในอดีตเลือกเนินเขานกกระจอกแห่งนี้ เป็นที่ตั้งบ้านพักของตน ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมอสโควชมความสวยงามของอาคารหลักของกรุงมอสโกมหาวิทยาลัยรัฐในฮิลส์แปร์โรว์เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 1755 โดยมิคาอิลซอฟ นักวิชาการรัสเซียในช่วงเวลานั้น มหาวิทยาลัยที่ได้รับการตั้งชื่อตามเขาในปี 1940 และเป็นจุดชมวิวที่สวย ที่สุดในมอสโคว ที่คู่รักนิยมมาถ่ายภาพแต่งงาน
รวมถึงเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นพิเศษในการชมบรรยากาศของมอสโคว
เย็น รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ที่พัก โรงแรม PRINCE PARK HOTEL @ MOSCOW หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม สถานีรถไฟใต้ดินกรุงมอสโคว (METRO) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการรับชมสถานี METRO ของการเดินทางวันนั้นๆ สถานีรถไฟใต้ดิน สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1931 โดยได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าเป็นสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในโลก ซึ่งในแต่ละสถานีจะมีการตกแต่งที่แตกต่างกัน ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานีรถไฟใต้ดินได้กลายเป็นหลุมหลบภัยที่ดีที่สุดเพราะมีโครงสร้างที่แข็งแรงรวมทั้งการก่อสร้างที่ขุดลงลึกไปถึงใต้ดินหลาย 10 เมตร และบางสถานียังเป็นที่บัญชาการระหว่างสงครามอีกด้วย ในปัจจุบันรถไฟใต้ดินที่กรุงมอสโควมีถึง 11 สาย 156 สถานีด้วยความยาวทั้งหมด 260 ก.ม.
จากนั้น เดินทางสู่ จัตุรัสแดง (RED SQUARE) เดินทางโดยรถไฟใต้ดิน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญตั้งอยู่กลางใจเมืองของมอสโควเป็นจัตุรัสที่สวยงามที่สุดในโลก เป็นสถานที่เก็บศพเลนินศาสดาของประเทศสังคมนิยม สร้างด้วยหินแกรนิต และหินอ่อน นับล้านชิ้นตอกลงบนพื้นจนกลายเป็นลานหินโมเสกเป็นพื้นที่ลานกว้าง ทางด้านหน้าจัตุรัสแดงนั้น เป็นที่ตั้งของกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซีย สังเกตุได้จากที่พื้น
ถนนจะมีสัญลักษณ์เป็นวงกลม และภายในวงกลมนี้เองก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปยืนกลางวงกลมนั้นและโยนเศษเหรียญข้ามไหล่ตัวเองไปด้านหลังเพื่ออธิษฐานให้ได้กลับมาที่มอสโควอีกครั้ง ลานกว้างของจัตุรัสแดงนี้มีพื้นที่กว้าง 695 เมตร ยาว 130 เมตร ทำหน้าที่เป็นสถานที่จัดงานสำคัญๆ ต่างๆ ของ
รัสเซียมาหลายยุคหลายสมัย บริเวณจัตุรัสแดงยังประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รายรอบอีกมากมายเช่น พระราชวังเครมลิน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์รัสเซีย
นำท่านชม มหาวิหารเซนต์บาซิล (ภายนอก) หนึ่งสถาปัตยกรรมที่กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของกรุงมอสโคว ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะเป็นโดมรูปหัวหอม สีสันสดใส ตั้ง ตระหง่านสง่างาม ขนาบข้าง ด้วยกำแพงเครมลิน สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอีวานที่ 4 (Ivan the Terrible) เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการรบชนะเหนือกองทัพของมองโกลที่เมืองคาซาน ในปี พ.ศ. 2095 หลังจากถูกปกครองกดขี่มานาน
หลายร้อยปี ออกแบบโดยสถาปนิก ปอสนิก ยาคอฟเลฟ (Postnik Yakovlev) และด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมจึงทำให้มีเรื่องเล่าสืบต่อกันว่า พระเจ้าอีวานที่ 4 ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มากจึงมีคำสั่งให้ปูนบำเหน็จแก่สถาปนิกผู้ออกแบบด้วยการควักดวงตาทั้งสอง เพื่อไม่ให้สถาปนิกผู้นั้นสามารถสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้อีก การกระทำในครั้งนั้นของพระเจ้าอีวานที่ 4 จึงเป็นที่มาของสมญานามอีวานมหาโหด
จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ณ (ห้างกุม) ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงมอสโก แต่มีชื่อเสียงในเรื่องของสินค้าอันมีให้เลือกซื้อกัน อย่างหลากหลายชนิด ห้างสรรพสินค้ากุม หรืออีกสถานที่หนึ่งที่มีสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ของเมืองนี้ ห้างสรรพสินค้ากุม ก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1895 มีความสวยงามและโดดเด่นมากลักษณะของตัวอาคารเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีร้านค้าเปิดให้บริการมากมาย
สำหรับให้ผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งถึง 200 ร้านค้าด้วยกัน แต่สินค้าที่นี่อาจจะมีทั้งรูปลักษณ์ ภายในและภายนอกที่ดูหรูหราโอ่อ่า และที่ส าคัญตั้งอยู่บริเวณลานกว้างในย่านจัตุรัสแดงห้างสรรพสินค้ากุมมีการจำหน่ายสินค้าประเภทอุปโภคและบริโภคเช่น เสื้อผ้า ของใช้ในครัวเรือน สินค้าที่มีชื่อมียี่ห้อ เครื่องสำอาง น้ำหอม และสินค้าที่เป็นประเภทของที่ระลึก ซึ่งมีให้เลือกกันอย่างหลากหลายทีเดียว
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม วิหารเซนต์ เดอซาร์เวียร์ (THE CATHEDRAL OF CHRIST OUR SAVIOUR) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1839 ในสมัยพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและแสดงกตัญญุตาแด่พระเป็นเจ้าที่ทรงช่วยปกป้องรัสเซียให้รอดพ้นจากสงครามนโปเลียนโดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 45 ปี แต่ต่อมาในปี ค.ศ.1990 สตาลินผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในขณะนั้นได้สั่งให้ทุบโบสถ์ทิ้งเพื่อดัดแปลงเป็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกจนเมื่อปี ค.ศ.1994 ประธานาธิบดี บอริส เยลซิน ได้อนุมัติให้มีการก่อสร้างวิหารขึ้นมาใหม่ด้วยเงินบริจาคของคนทั้งประเทศ ซึ่งจำลองของเดิมได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ วิหารนี้จึงกลับมายืนหยัดที่เดิมอีกครั้งโดยสร้างเสร็จสมบูรณ์และทำพิธีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ.2000 ปัจจุบันวิหารนี้ใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญระดับชาติของรัสเซีย
เย็น รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ชมละครสัตว์ Russian Circus การแสดงของสัตว์แสนรู้มายากล กายกรรมไต่ลวด และการแสดงผาดโผนจากนักแสดงมืออาชีพ การแสดงจะมี 2 ช่วง ช่วงละ 45 นาที และพักอีก 15 นาที ระหว่างพักจะมีบริการถ่ายรูปกับสัตว์ต่างๆ จากนั้น นำท่านกลับสู่ที่พักต่างๆ (ในกรณี CIRCUS งดการแสดง ทางบริษัทฯ จะ
นำท่านชมบัลเล่ต์หรือ ชมการแสดงที่ (YAR RESTAURANT) หมายเหตุละครสัตว์มีแสดงเฉพาะวันศุกร์ และวันอาทิตย์
ที่พัก โรงแรม PRINCE PARK HOTEL @ MOSCOW หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม พระราชวังเครมลิน (Kremlin) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1147 โดยมกุฎราชกุมารแห่งนครเคียฟ เจ้าชายยูริ โดลโกรูกี มีรับสั่งให้สร้างเพื่อใช้ป้องกันศัตรู ในอดีตเป็นเพียงป้อมปราการไม้ธรรมดา ที่เป็นเหมือนหัวใจของกรุงมอสโคว ตามความเชื่อของชาวรัสเซียเครมลินคือที่สถิตของพระเจ้า ปัจจุบันพระราชวังเครมลินเป็นพิพิธภัณฑ์ และที่ตั้งสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น สภาคองเกรส วิหารต่างๆ หอระฆังของอีวานมหาราชและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมาย
เข้าชม พิพิธภัณฑ์อาร์เมอร์รี่แชมเบอร์ (KREMLIN ARMOURY CHAMBER) ที่อยู่ในบริเวณพระราชวังเครมลิน พิพิธภัณฑ์นี้ เป็นสถานที่เก็บสมบัติล้ำค่ากว่า 4,000 ชิ้ น เช่น ศาสตราวุธต่างๆ เครื่องป้องกันตัว หมวก เสื้อเกราะที่ใช้รบในสมรภูมิ เครื่อง เงิน ทอง เพชรพลอยเครื่องทรงของกษัติย์พระเจ้าซาร์และซารีน่าซึ่งหาดูได้ยากยิ่งจากนั้นชม โบสถ์อัสสัมชัญ (ASSUMPTION) วิหารหลวงที่เก่าแก่สำคัญและใหญ่ที่สุดในเครมลิน โดยสร้างทับลงบนโบสถ์ไม้เก่าที่มีมาก่อนแล้ว ใช้ในการประกอบพิธีราชาภิเษก ชมป้อมปืนใหญ่, หอระฆังพระเจ้าอีวานและ ชมระฆังยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
(หากมีพิธีกรรมทางศาสนาโบสถ์อัสสัมชัญจะไม่อนุญาตให้เข้าชมด้านใน)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ IZMAILOVSKY SOUVENIR MARKET ตั้งอยู่ใกล้กับ Izmailovo Royal Estate จึงเป็นที่มาของชื่อ Izmailovsky ที่เป็นชื่อของตลาดนัดแห่งนี้ นั่นเอง ของที่ระลึกจากรัสเซียที่น่าซื้อหาก็มี ตุ๊กตาแม่ลูกดก เป็นตุ๊กตาไม้เขียนลวดลายสวยงามและซ้อนกันเป็นชั้นๆ จากตัวใหญ่ไปจนเล็ก ในการซื้อสินค้าจากรัสเซียควรระวังการซื้อภาพวาดสีน้ำมันเก่าๆ และงานทองเหลืองงานศิลปะโบราณที่เกี่ยวข้องกับศาสนาไว้ให้มากๆ เนื่องจากว่ามีกฎหมายห้ามนำของเก่าเหล่านี้ ออกนอกประเทศรัสเซีย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก โรงแรม PRINCE PARK HOTEL @ MOSCOW หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟ เพื่อเดินทางไปยังเมือง เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก โดย รถไฟด่วน SAPSAN (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
หมายเหตุ : ตารางเวลาเดินรถไฟ SAPSAN สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับรอบที่ทางบริษัทจัดหาได้หรือ อันเนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากเหตุสุดวิสัย โดยมิต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าในระหว่างเดินทางบนรถไฟ มีบริการจำหน่ายอาหารว่างและเครื่องดื่ม ต่างๆ ท่านสามารถเลือกซื้อทานได้ตามอัธยาศัย (ไม่รวมอยู่ในค่าบริการทัวร์)
เดินทางถึง เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวงเก่าและเมืองแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศรัสเซียมีความงดงามเป็นที่กล่าวขานจนได้ชื่อว่า ราชินีแห่งยุโรปเหนือ เมืองใหญ่เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชในปี 1703 และก็ทรงย้ายเมืองหลวงจากมอสโกมาที่นี่จนครองความเป็นเมืองหลวงอยู่นานกว่า 200 ปี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ไอแซค มหาวิหารโดมที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกสวยงามน่าชมไปทั้งหลัง แต่เดิมเคยเป็นโบสถ์ไม้เก่าหลังเล็ก พอเปลี่ยนเป็นมหาวิหารหลังใหญ่ความอลังการก็ปรากฏขึ้นด้วยอาคารหลังใหญ่ที่มีเสาหินแกรนิตชิ้นใหญ่จำนวน 48 ต้น แต่ละต้นมีความสูงเกิน 20 เมตร น้ำหนัก 114 ตัน ส่วนของยอดโดมที่เห็นเป็นสีทองนั้นทำด้วยทองคำแผ่นหนักประมาณ 100 กิโลกรัม สวยงามยิ่งใหญ่ที่สุด
จากนั้นอิสระให้ท่านถ่ายภาพ โบสถ์หยดเลือด (CHURCH OF THE SAVIOUR ON THE BLOOD)(บริเวณภายนอก)โบสถ์เก่าที่
สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1883 เป็นโบสถ์ปกติทั่วไปที่มีไว้เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ตัวอาคารโบสถ์ออกแบบสร้างด้วยสถาปัตยกรรม
แบบไบเซนต์ไทน์เช่นเดียวกับวิหารเซนต์บาซิลในมอสโกที่เป็นอาคารต้นแบบผู้สร้างโบสถ์แห่งนี้ก็คือ “พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3” ซึ่งสร้างให้เป็นอนุสรณ์ถวายพระเกียรติแก่ “พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2” พระบิดาที่ถูกลอบปลงพระชนม์ในบริเวณนี้เมื่อปี 1881
จากนั้นนำท่านชม(ภายนอก) โบสถ์นิโคลัส (ST.NICHOLAS NAVAL CATHEDRAL) มหาวิหารการเดินเรือแห่งนักบุญนิโคลัสมีผนังสีน้ำเงินที่งดงามและตั้งอยู่ริมฝั่งคลองครูย์คอฟ มหาวิหารแห่งนี้ตั้งชื่อตามนักบุญนิโคลัสซึ่งเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์นักเดินเรือและเป็นสถานที่อันเป็นที่เคารพนับถือโดยสถาบันทางศาสนาและนาวีของรัสเซีย จะสังเกตเห็นหอหลังคาโดมและหลังคาโดมสีทองอันโดดเด่นที่ประดับอยู่
บนยอดของมหาวิหาร มหาวิหารมีรูปร่างแบบกางเขนสไตล์กรีก โดยมีการใช้เสาแบบคอรินเทียนที่ประดับไปด้วยระเบียงที่มีราวอันประณีต แม้ว่าจะมีขนาดไม่ใหญ่เท่ามหาวิหารที่ยิ่งใหญ่กว่าบางแห่งของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กแต่มหาวิหารนักบุญนิโคลัสแห่งนี้ก็มีเสน่ห์ที่ปฏิเสธมิได้ (ไม่รวมค่าเข้าชมด้านในโบสถ์ประมาณ 100 รูเบิ้ล)
ค่ำ นำท่านรับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ที่พัก COSMOS PRIBALTISKAYA HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม พระราชวังฤดูหนาว สร้างตั้งแต่ปี 1732และเพื่อแสดงถึงอำนาจและความยิ่งใหญ่ของรัสเซียจึงได้สร้างให้มีขนาดที่ใหญ่และตกแต่งอย่างงดงามในสไตล์ บารอก เป็นพระราชวังที่มีเอกลักษณ์ด้วยสีเขียวขาว ด้านหน้าอาคารมีความยาวถึง 250 เมตร มีห้องรวมแล้ว กว่า 1,500 ห้อง ปัจจุบันพระราชวังฤดูหนาวแห่งนี้ได้เปิดให้เข้าชม
ภายในได้ส่วนที่เป็น พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจ ภายในมีการจัดแสดงสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์แห่งรัสเซียเก็บงานศิลปะระดับบันลือโลกซึ่งมีมากถึงกว่า 3,000,000 ชิ้น ทั้งงานเขียน งานปั้น งานแกะสลักหลายชิ้นเป็นของเก่าตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณไล่มาจนถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และยังมีหนังสือเก่าอีกหลายหมื่นเล่มซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างที่สุด ผลงานจากศิลปินชื่อดังระดับโลกไม่ว่าจะเป็นไมเคิล แองเจโล, ลีโอนาร์โด ดา วินชี, แวนโก๊ะ ก็สามารถหาชมได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ (ในกรณีพระราชวังปิด บริษัทฯ ขอปรับโปรแกรมให้ท่านตามความเหมาะสม โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังแคทเทอรีน (Catherine Palace) ซึ่งถือเป็นพระราชวังที่มีความงดงามและมีชื่อเสียงระดับโลก พระราชวังนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชเพื่อเป็นที่พักผ่อนในฤดูร้อนของพระนางแคทเธอรีนที่ 1 พระราชวังแคทเธอรีนมีสวนที่สวยงามและห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยศิลปะคลาสสิก ด้านนอกของพระราชวังมีรูปทรงคล้ายกับพระราชวังฤดูหนาวในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ภายในตกแต่งอย่างอลังการด้วยลายปูนปั้นที่สวยงามและเพดานที่ประดับด้วยภาพแฟรสโก้จุดเด่นของพระราชวังคืออาคารสีฟ้าที่มีโดมทองคำซึ่งสะท้อนแสงแดดอย่างงดงาม แต่สิ่งที่ห้ามพลาดที่สุดคือห้องอำพัน (Amber Room) ห้องนี้ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาด้วยผนังและถ่ายภาพคู่กับ เรือรบหลวงออโรร่า ของกองทัพเรือรัสเซียได้ชื่อว่าเป็นเรือรบที่เก่าแก่ที่สุดในรัสเซีย โดยเป็นเรือลาดตระเวนที่รับใช้ชาวรัสเซียมายาวนาน เคยเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือบอลติกและเข้าร่วมยุทธนาวีช่องแคบสึชิมะ ในช่วงสงครามรัสเซียกับญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1904 -1905 เคยร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 รวมถึงใช้ยิงปืนเป็นสัญญาณให้พลพรรคบอลเชวิกในการปฏิวัติเดือนตุลาคม เพื่อทำการเข้ายึดพระราชวังฤดูหนาวและสถานที่สำคัญๆ ในเปโตรกราด เมื่อปี ค.ศ.1917 และยังเป็นเรือที่โดยสารซาร์นิโคลัสที่ 2 พร้อมราชนิกุลคนอื่นๆมายังพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 6 ในปี ค.ศ.1911 จอดที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ปัจจุบันเรือออโรร่าได้ปลดประจำการ กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
จากนั้น นำท่านแวะชมทัศนียภาพ ริมแม่น้ำเนวาเป็นแม่น้ำในประเทศรัสเซียส่วนยุโรป ไหลออกจากทะเลสาบลาโดกาและไหลเข้าสู่อ่าวฟินแลนด์ในทะเลบอลติก มีความยาวค่อนข้างสั้น คือ 74 กิโลเมตร แต่เป็นแม่น้ำที่มีการไหลเป็นอันดับสามในยุโรป
ค่ำ นำท่านรับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
ที่พัก PARK INN PRIBALTISKAYA HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางเข้าชมภายใน พระราชวังฤดูร้อน หรือ พระราชวังปี เตอร์ฮอฟ (PETERHOF PALACE) เป็นพระราชวังที่พระเจ้าปีเตอร์มหาราชทรงสร้างขึ้นริมทะเลบอลติกในปี 1705 เพื่อให้เป็นที่ประทับพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน และทรงมีความต้องการให้พระราชวังแห่งนี้สวยงามยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซายส์แห่งฝรั่งเศสด้วยจุดประสงค์เดียวก็คือเพื่อแสดงออกถึงความรุ่งเรืองร่ำรวยของรัสเซียในยุคนั้น และต้องการให้ยิ่งใหญ่ เหนือใคร บรรดาวิศวกรสถาปนิกฝีมือดีจึงถูกเกณฑ์มารับงานออกแบบพระราชวังแห่งนี้มากมาย เพื่อเนรมิตความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบบารอกและนีโอคลาสสิกให้กับตัวอาคารและห้องต่างๆ ทั้งหมด ที่ยิ่งใหญ่กว่าห้องไหนๆ ก็ต้องท้องพระโรงและห้องจัดเลี้ยงซึ่งหรูหรามาก ไม่เพียงแต่ความอลังการภายใน เพราะภายนอกก็มีความยิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้กันท่านจะได้ตื่นตากับอุทยานพรรณไม้ที่มีประติมากรรมน้ำพุทองเหลือง สูงถึง 27 ขั้น พร้อมรูปปั้นอีก 255 ชิ้นตกแต่งรายรอบ (ในกรณีพระราชวังปิดบริษัทฯ ขอปรับโปรแกรมให้ท่านตามความเหมาะสม โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินชมบริเวณ ป้อมปี เตอร์แอนด์ปอล (PETER AND PAUL FORTRESS) สิ่งก่อสร้างชิ้นแรกของเซนส์ปีเตอร์สเบิร์ก สร้างโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ทรงตั้งชื่อให้ป้อมแห่งนี้ตามชื่อของนักบุญปีเตอร์และนักบุญปอลผู้เป็นสาวกแห่งพระผู้เป็นเจ้า ป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1703 เพื่อประโยชน์ในการป้องกันศัตรู โดยมีความสูงประมาณ 122.5 เมตร ต่อมาในราวปี 1706 ก็ขยับขยายให้มีพื้นที่ของคุกสำหรับคุมขังนักโทษการเมือง และได้ต้อนรับนักโทษการเมืองชื่อดังของเมืองอยู่หลายคน แต่ไม่มีนักโทษคนใดน่าสนใจเท่ากับการถูกคุมขังของ “ซาร์เรวิช อเล็กซิส” (TSAREVICH ALEXIS) พระโอรสองค์โตของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ที่ถูกจับได้ว่าจะก่อการกบฏและลอบปลงพระชนม์พระบิดา ส่วนพระเจ้าปีเตอร์มหาราชภายหลังเมื่อเสด็จสวรรคตได้นำพระศพบรรจุไว้ในสุสานกษัตริย์ภายในป้อมแห่งนี้ ป้อมปีเตอร์แอนด์ปอลก็ยังทำหน้าที่เสมือนสุสานหลวงเก็บพระศพกษัตริย์และราชินีแห่งโรมานรอฟไว้อีกมากมาย เช่น พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 และ พระนางมารี อเล็กซาดรอฟนา ซึ่งเป็นเจ้าหญิงจากเยอรมนี รวมถึงพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 และพระบรมวงศานุวงศ์องค์อื่นๆ ด้วย (ในกรณีที่สถานที่ปิด หรือมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ไม่สามารถเข้าชมได้บริษัทฯ ขอปรับเปลี่ยน โปรแกรมให้ท่านตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
จากนั้นนำท่านแวะเพื่อถ่ายรูป มหาวิหารคาซาน (Kazan Cathedral) เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุด โดยก่อสร้างในช่วงปี ค.ศ. 1708 ซึ่งเป็นการสร้างโบสถ์ที่มีขนาดเล็กไม่ได้ใหญ่มากนักภายในโบสถ์จะมีรูปพระแม่มาเรีย ที่วาดขึ้นมาในช่วงรัชสมัยศตวรรษที่ 16 ตรงกับในสมัยพระเจ้าอีวานที่ 4 ตอนที่กรุงมอสโกเป็นเมืองหลวง ต่อมาในปี ค.ศ. 1799 ได้มีการสร้างเพิ่มให้มีขนาดใหญ่ไปอีกแล้วพอถึงช่วงปี ค.ศ. 1801-1811 ก็มีสถาปนิก A. Voronikhin เป็นผู้สร้างมหาวิหารคาซานแห่งนี้ในปัจจุบันมหาวิหารคาซานเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก มีลักษณะเป็นรูปทรงครึ่งวงกลมคล้ายๆ กับเกือกม้า เสาหินมีการวางเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ โดยมีเสาหินโรมันนี้ถึง 96 ต้น ส่วนโดมมีความสูง 90 เมตร และยังเป็นสวนสาธารณะที่นิยมกันในหมู่ชาวรัสเซียอีกด้วย (ในกรณีที่สถานที่ปิด หรือมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ไม่สามารถเข้าชมได้ทางบริษัทฯ ขอปรับเปลี่ยนโปรแกรมให้ท่านตามความเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
จากนั้นให้ท่านอิสระเดินเที่ยวชมและช้อปปิ้งที่ ถนนเนฟสกี้(NEVSKY PROSPEKT) ถนนประวัติศาสตร์ศูนย์กลางแห่งเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีความยาว ประมาณ 4.5 กิโลเมตร มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18-20 ที่เรียงรายอยู่ริมสองข้างทาง เป็นจุดศูนย์รวมทั้งย่านการค้า ย่านที่อยู่อาศัย พระราชวัง โรงละคร ร้านค้า โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมายถนนเนฟสกี้ สร้างในปี ค.ศ. 1710 สมัยของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ด้วยฝีมือของสถาปนิก ALEXANDRE JEAN BAPTISTE LE BLOND เต็มในปี ค.ศ. 1738 เรียกว่า NEVSKAYA PERSPECTIVE ถนนเส้นนี้เริ่มจากถนนหน้ากระทรวงทหารเรือ (ADMIRALTY) บริเวณพระราชวังฤดู
หนาว ติดกับแม่น้ำเนว่า มีการต่อเติมจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 1760 เป็นถนนเส้นหลักของเมือง และในปี ค.ศ. 1783 เปลี่ยนชื่อเป็น NEVSKY PROSPERKT ที่ใช้มาถึงปัจจุบัน
ค่ำ อาหารเย็นอิสระตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดนิทางสู่สนามบินเมืองเซนปีเตอร์เบริก
23.05 น. เหิรฟ้าสู่ ดูไบ (DXB) โดยสายการบิน EMIRATES AIRLINE เที่ยวบินที่ EK176 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
06.15 น. เดินทาง ถึงสนามบินดูไบ (DXB)
09.05 น. ออกเดินทาง สู่ กรุงเทพฯ โดยสายการ EMIRATES AIRLINE เที่ยวบินที่ EK 370
18.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
| วันที่เดินทาง | ราคาเริ่มต้น | จำนวนคน | |
|---|---|---|---|
| 09 Jul 2025 - 16 Jul 2025 | ฿ 76,988 | ||
| 26 Jul 2025 - 02 Aug 2025 | ฿ 76,988 | ||
| 09 Aug 2025 - 16 Aug 2025 | ฿ 76,988 | ||
| 20 Sep 2025 - 27 Sep 2025 | ฿ 76,988 | ||
| 11 Oct 2025 - 18 Oct 2025 | ฿ 76,988 | ||
| 16 Oct 2025 - 23 Oct 2025 | ฿ 76,988 | ||
| 18 Oct 2025 - 25 Oct 2025 | ฿ 76,988 |
รหัส : SPSRS003
รหัส : SPSRS002
รหัส : SPSEU359