- 5 วัน 3 คืน
รหัส : SPSJP339
ราคาเริ่มต้น ฿24,888
20.00 น. พร้อมกันที่ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาออก ชั้น 3 เคาน์เตอร์สายการบิน AIR ASIA X (XJ) มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและติดแท็กกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่อง
23.25 น. เดินทางสู่ ประเทศญี่ปุ่น โดยสายการบิน AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ600 (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าอาหารบนเครื่อง บนเครื่องมีจำหน่าย)
07.55 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกา ของท่านเป็นเวลาท้องถิ่น เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร สำคัญ!!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนจะมีโทษทั้งจำและปรับ เดินทางสู่ โตเกียว (Tokyo) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองหลวงของญี่ปุ่น เป็นมหานครที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่1) เมนูพิเศษ Yakiniku Buffet
เที่ยววัดพุทธที่เก่าแก่ที่สุดในภูมิภาคคันโต วัดอาซากุสะ (SENSOJI TEMPLE) กราบสักการะขอพรจากองค์ เจ้าแม่กวนอิมทองคำที่เป็นทองสัมฤทธิ์ มีขนาดเล็กเพียง 5.5 เซนติเมตร ให้ท่านถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ คามินาริมง (ประตูฟ้าคำรณ) ซึ่งมีโคมไฟสีแดงขนาดยักษ์ที่มีความสูงถึง 4.5 เมตร โคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกแขวนอยู่ เลือกชมและเช่าเครื่องรางอันศักดิ์สิทธิ์ของวัดแห่งนี้
หากพอมีเวลาแนะนำให้ท่านอิสระเดินเล่นชม สวนสุมิดะ (Sumida Park) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) เป็นสวนสาธารณะที่มีซากุระปลูกอยู่ประมาณ 1,000 ต้น และมีวิวแม่น้ำเป็นฉากหลังจึงเกิดวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสุดโรแมนติกและนับว่าที่นี่เป็นจุดยอดนิยมแห่งหนึ่งของโตเกียวเลยก็ว่าได้
เช็คไอเท็มเด็ดศูนย์รวมแฟชั่น ย่านชินจูกุ (Shinjuku) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงโตเกียว สามารถเลือกชมและซื้อสินค้ามากมาย อาทิเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้องถ่ายรูป, นาฬิกา, เสื้อผ้า,รองเท้า และเครื่องสำอางแบรนด์ต่างๆ เช่น KOSE, SHISEDO, KANEBO, SK II และอื่นๆ อีกมากมาย หรือร้าน100เยน (อยู่ตึก PEPE ชั้น 8) ซึ่งสินค้าทุกอย่างภายในร้านจะราคา 100 เยน เท่ากันหมด หรือเป็นร้านดองกี้และร้านมัตสึโมโต้ที่รวมสินค้า ที่ขายสินค้าราคาถูกสารพัดอย่างเอาไว้
เดินทางสู่ จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นที่รู้จักจากทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงภูเขาไฟฟูจิอันโดดเด่น หากมีโอกาสต้องมาสักครั้ง
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2) เมนูพิเศษ บุฟเฟ่ต์ขาปู!! ชนิดของขาปูขึ้นอยู่กับการนำเข้าของโรงแรม
ที่พัก: Fujisan Garden Hotel Onsen3* หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนเดินทาง)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)
จุดเช็คอินใหม่แถมชมวิวสุดว้าวที่ ทะเลสาบยามานากาโกะ (Yamanakako communication plaza kirara) ที่นี่มีบรรยากาศที่เงียบสงบ แห่งหนึ่งในบริเวณทะเลสาบยามานากะโกะและจุดนี้ถือเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ หรือถ่ายภาพสวยๆ กับจุดห้ามพลาดคือสะพานทางเดินไม้ ให้ฟีลเหมือนฉากในซีรีส์ ถ่ายมาสวยเก๋แน่นอน (การมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน)
ช้อปปิ้งที่ Duty free แหล่งช้อปปลอดภาษี ที่รวบรวมสินค้าราคาพิเศษ และมีชื่อเสียงที่เห็นแล้วต้องรู้ว่ามาจากประเทศญี่ปุ่นเช่น โฟมถ่านหินฟูเขาไฟ วิตามิน อาหารเสริม ครีมต่างๆ ขนมญี่ปุ่นหลากหลายชนิด รวมไปถึงชาเขียว ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของ ไฮไลท์ของคนรักดอกไม้ต้องไม่พลาด สวนโออิชิ ปาร์ค (Oishi Park) เป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เกือบทั้งลูก ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบคาวากุจิโกะฝั่งเหนือ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นซึ่งมาพักผ่อนตากอากาศ ชมวิว ดื่มด่ำกับความงามของทิวทัศน์ ในวันที่อากาศแจ่มใส อิสระถ่ายภาพความงามของภูเขาไฟฟูจิและดอกไม้นานาพันธุ์สีสันสดใสเต็มทุ่งแห่งนี้ พร้อมทั้งเลือกชมและซื้อสินค้าพื้นเมืองและขนมต่างๆ ตามอัธยาศัย (**การบานของดอกไม้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี)
Highlight! เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม มีโอกาสพบเจอดอกไม้เหล่านี้
– ดอกนิโฟเฟีย (Kniphofia) หรือดอกเข็มแอฟริกา
– ดอกเสจ (Salvia) มีหลากหลายสีสันให้ได้ชม
– ดอกหญ้าฟรุ้งฟริ้ง (Butterfly Gaura) หรือดอกเกาห์ร่า จะพลิ้วไหวสวยงาม
– ดอกคอสมอส (Cosmos) หรือดอกดาวกระจาย จะบานสะพรั่งเป็นทุ่ง
– ไฮไลท์จะเป็น ทุ่งโคเคีย (Kochia) ในช่วงนี้ทุ่งโคเคียจะเป็นสีเขียวสดใส ก่อนที่จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงอมน้ำตาลในช่วงกลางกันยายนถึงปลายเดือนตุลาคม
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่4)
นำท่านเดินทางสู่ จังหวัดนากาโน่ (Nagano) เป็นเมืองที่สวยวาม ธรรมชาติที่หลากหลายสมบูรณ์ รวมไปถึงและเป็นที่ตั้งของ เทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น (Japanese Alps) ที่มีความสูงกว่า 3,000 เมตร แวะชื่นชมและสักการะ วัดเซนโคจิ (Zenkoji Temple)(ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชมวิหาร) เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองและมีความเก่าแก่เพราะมีประวัติศาสตร์ยาวนานประมาณ 1,400 ปี ตัวประตูนิโอมง ฝั่งซ้ายมือจะมี “รูปแกะสลักเทพทวารบาลอะ” เชื่อว่า
เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ ส่วนด้านขวามือเป็น “รูปแกะสลักเทพทวารบาลอุน” เป็นสัญลักษณ์แห่งการสิ้นสุดของทุกอย่าง และพลาดไม่ได้กับ ถนนนากะมิเซ (Zenkoji Nakamise Street) เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งร้านขายของฝาก ร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์และร้านขายอาหาร คาเฟ่ขายเครื่องดื่ม ให้ได้แวะซื้อ แวะชิมตลอดทาง
เดินทางสู่ เมืองฮาคุบะ (Hakuba) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติเพราะล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ทำให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่สวยงามทุกฤดูตลอดทั้งปี
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่5)
ที่พัก: Hotel GranJam Tsugaike OR Hotel Oak Forest 3* หรือโรงแรมและเมืองที่ใกล้เคียงกัน (ระดับเดียวกัน)
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนเดินทาง)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)
จุดชมวิวบนเขาที่โด่งดังจนต้องมาเห็นกับตาที่ Hakuba Iwatake Mountain Resort พร้อมนั่ง Gondola lift ขึ้นสู่จุดชมวิวบนภูเขาอิวาทาเกะ (Mt. Iwatake) ที่จะมอบทิวทัศน์สุดตระการตา 360 องศา ด้านบนมีไฮไลท์ระเบียง Hakuba Sanzan ที่สามารถชมวิวภูเขาต้นไม้ หรือถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ และยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ปั่นจักรยานเสือภูเขา หรือ Yoo-Hoo! SWING นั่งชิงช้าลอยฟ้าขนาดใหญ่ พร้อมทั้งยังมีร้านเบอเกอรี่คาเฟ่บริการ ท่านสามารถเลือกซื้อขนมหรือเครื่องดื่ม จิบชมวิว ทำให้ผ่อนคลายและดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น (ค่าทัวร์รวมค่าขึ้น Gondola lift ไม่รวมค่ากิจกรรมต่างๆ ในบริเวณ Hakuba Iwatake Mountain Resort)
**กรณีที่ Hakuba Iwatake Mountain Resort นั่ง Gondola lift ไม่ได้ เนื่องจากสถานที่ถูกประกาศปิดเลื่อนการเปิด ภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมไปถึงเหตุขัดข้องอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถไปได้ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ เปลี่ยนไป ขึ้นกระเช้าชินโฮตากะ (Shin-Hotaka Ropeway) พาทุกท่านชมวิวที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,156 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ รวมไปถึงภูเขาต่างๆ และธรรมชาติของญี่ปุ่นได้อย่างสวยงาม (ค่าทัวร์รวมค่ากระเช้า)แทนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของท่านเป็นหลัก และไม่แจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าทุกกรณี
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่7)
ให้ท่านเดินเล่นบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติพร้อมถ่ายรูปสุดชิคกันที่ คามิโคจิ (Kamikochi) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อน สายรักธรรมชาติ หรือสายคอนเทนต์ที่จะได้ภาพที่สวยงามอวดลงโซเชียล ที่นี่ถือเป็นสถานที่สวยงามมีแม่น้ำอาซุสะ (Azusa River) สายสำคัญและน้ำที่ใสแจ๋ว พร้อมเทือกเขาอลังการอย่าง Japan Alps ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์แดนญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และอย่าลืม ไฮไลท์สะพานคัปปะ (Kappa Bridge) ที่ใครมาก็ต้องแวะ
**กรณีที่ไม่สามารถไปเที่ยวชม คามิโคจิได้ เนื่องจาก สถานที่ยังไม่เปิดให้บริการ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมไปถึงรัฐบาลประกาศสั่งปิด หรือเหตุขัดข้องอื่นใดก็ตาม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนสถานที่ท่องเที่ยวไป เยือนสถานที่ชื่อดังของญี่ปุ่น หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) หมู่บ้านมรดกโลกแห่งที่ 6 ของญี่ปุ่น ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1995 เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ประกอบไปด้วยบ้านเรือนที่มีอายุเก่าแก่กว่า 200-300 ปี จุดที่ไม่ควรพลาด คือบ้านเก่าแก่ประจำหมู่บ้านอย่าง Wada House หรือ Kanda House ที่ถือว่าเป็นบ้านทรงกัสโซ่แบบโบราณที่อนุรักษ์เอาไว้จวบจนปัจจุบันอันเป็นสมบัติของชาติ และพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวิถีชีวิตการเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีบ้านหลายๆ หลังที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อีกด้วย อิสระให้ถ่ายภาพตามอัธยาศัย แทนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของท่านเป็นหลัก และไม่แจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าทุกกรณี
เดินทางสู่ จังหวัดกิฟุ(Gifu) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมโบราณที่สืบทอดต่อกันมา บ้านทรงโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในตัวเองอย่างมาก เช็คอินแลนด์มาร์ค ย่านเมืองเก่าทาคายาม่า (Takayama Old Town) ย่านที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านไม้โบราณและได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีจนถึงทุกวันนี้ เดินชม หมู่บ้าน LITTLE KYOTO หรือย่านซันมาชิซูจิ (Sanmachi-Suji) เป็นเขตเมืองเก่าที่มีการอนุรักษ์บ้านเรือนในสมัยเอโดะที่มีอายุกว่า 300 ปี ไว้ได้เป็นอย่างดี การสร้างบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ใช้เฉพาะโทนสีน้ำตาลหรือสีดำเท่านั้น ในปัจจุบันนี้ถ้าใครจะสร้างบ้านหลังใหม่ก็จะต้องใช้แค่ 2 สีนี้เท่านั้น เพื่อไม่ให้โดดหรือดูแปลกแยกออกมาจากบ้านหลังอื่น ย่านนี้มีร้านค้าหลากหลาย เช่น ร้านผลิตและจำหน่ายเหล้าสาเก ร้านทำมิโสะ ร้านซูชิ ไอศกรีม ของหวาน ฯลฯ รวมไปถึงสามารถเลือกซื้อของที่ระลึก สินค้าพื้นเมืองเฉพาะถิ่น เช่น ซารุโบะโบะ หรือ ตุ๊กตาทารกลิงตัวสีแดงไม่มีหน้าตา ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองทาคายาม่า หรือ ถ่ายรูปกับสะพาน (Nakabashi Bridge) สะพานสีแดงที่ทอดข้ามแม่น้ำมิยากาวะซึงเป็นสัญลักษณ์ของเมืองทาคายาม่าอีกด้วย อิสระเก็บภาพความประทับใจเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ โรงแรมที่พัก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่8)
ที่พัก: Hotel Koyo 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนเดินทาง)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่9)
เดินทางสู่ เกียวโต (Kyoto) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) มีความสำคัญในฐานะอดีตเมืองหลวงที่รุ่งเรืองอย่างยาวนานร่วมหนึ่งพันปี เป็นเสมือนจุดกำเนิดของความเป็นญี่ปุ่นที่ทุกคนรู้จัก ทั้งวัดวาอารามศาลเจ้าเก่าแก่ เกอิชา และย่านเมืองเก่าที่เรียงรายด้วยบ้านเรือนไม้ เที่ยวชมศาลเจ้าที่มีความเก่าแก่มากกว่าพันปี ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ (Fushimi Inari) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ศาลเจ้าแดง หรือ ศาลเจ้าจิ้งจอก มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตูโทริอิ (Torii Gate) หรือเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจำนวนหลายหมื่นต้นจนเป็นทางเดินได้ทั่วทั้งภูเขาอินาริ ผู้คนเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ โดยเทพอินาริจะเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ การเก็บเกี่ยวข้าว รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย ดังนั้นบริเวณศาลเจ้าจึงมีรูปปั้นจิ้งจอกอยู่มากมาย
เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง (มื้อที่10)
เดินทางสู่ โอซาก้า (Osaka) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 มีชื่อเสียงในด้านอาหาร วัฒนธรรม และชีวิตกลางคืนที่โดดเด่น เช็คอินจุดไฮไลท์ของเมืองโอซาก้า ถ่ายภาพด้านหน้า กับ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ชมปราสาทเก่าแก่ของญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่พำนักของโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ผู้รวมญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียวในสมัยนั้น ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงเสร็จสมบูรณ์ยาวนานกว่า 16 ปี เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ในปัจจุบันปราสาทโอซาก้าก็ยังคงได้รับการดูแลให้อยู่ในสภาพที่น่าเกรงขามและยิ่งใหญ่ จนนับว่าเป็นหนึ่งในสามปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น (ค่าทัวร์ไม่รวมค่าเข้าปราสาท)
เช็คอินย่านดัง ย่านชินไซบาชิ(Shinsaibashi) ย่านช้อปปิ้งขนาดมหึมาระยะทางกว่า 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านเครื่องสำอาง ร้านขายเสื้อผ้า ร้านปลอดภาษี (Duty Free) ร้าน 100 เยน ไปจนถึงร้านอาหารและคาเฟ่ก็รวมตัวกันอยู่ที่นี่ และจุดเด่นคือมี ป้ายไฟกูลิโกะ (Glio LED) ป้ายไฟที่ไม่เพียงบ่งบอกความนิยมของแบรนด์ขนมชื่อดังอย่างกูลิโกะเท่านั้น แต่ยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้าอีกด้วย โดยป้ายไฟกูลิโกะ (Glico LED) นี้ถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1953 ตั้งอยู่บริเวณสะพานอิบิซึบาชิ (Ebisubashi Bridge) สะพานเล็กๆที่เชื่อมต่อระหว่าง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)กับย่านชินไซบาชิ ย่านการค้ายอดนิยมของโอซาก้า
เดินทางสู่เมือง เมืองอิซุมิซาโนะ(Izumisano) (ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่คันไซ เมืองนี้ถือว่ามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
ที่พัก: Izumisano Center Hotel OR N GATE HOTEL 3* หรือระดับใกล้เคียงกัน
(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนเดินทาง)
กรณีที่ได้พัก Izumisano Center Hotel อิสระท่องเที่ยวโดยรถแท็กซี่ (ค่าทัวร์ไม่รวมค่ารถโดยสาร) ใช้เวลาโดยประมาณ 7 นาที เพื่อเดินทางไปที่ รินคู พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท (Rinku Premium Outlets) หรือ กรณีที่ได้พัก N GATE HOTEL OSAKA ท่านสามารถอิสระเดินเล่น ใช้ระยะเวลาประมาณ 11 นาที เพื่อไปช้อปปิ้งที่ รินคู พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท (Rinku Premium Outlets) ที่ถูกออกแบบมาโดยได้แรงบัลดาลใจมาจากบรรยากาศท่าเรือตอนใต้ของอเมริกา จำลองเป็นเสมือนเมืองท่าแห่งการช้อปปิ้งที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้การแตกแต่งที่ดูหรูหรามีสไตล์และรวบรวมแบรนด์ดังมากถึง 210 ร้าน ครบครันทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่นแบรนด์ Dolce & Gabbana, Armani, Kate Spade New York, Coach, United Arrows, NIKE, Adidas และ Royal Copenhagen ยังมีมุมให้นั่งพักผ่อนอย่างศูนย์อาหารที่คัดร้านดีร้านอร่อยให้นั่งทานอีกด้วย
เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่11) หรือบริการอาหาร แบบกล่อง SET BOX กรณีที่ พักอยู่ห่างจากสนามบิน หรือกรณีห้องอาหารโรงแรมเปิดช้า
06.30 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ ประเทศไทย
10.05 น. เดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง โดยสายการบิน AIR ASIA X (XJ) เที่ยวบินที่ XJ613
(ค่าทัวร์ไม่รวมค่าอาหารบนเครื่อง บนเครื่องมีจำหน่าย)
14.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
| วันที่เดินทาง | ราคาเริ่มต้น | จำนวนคน | |
|---|---|---|---|
| 10 Oct 2025 - 15 Oct 2025 | ฿ 39,888 | ||
| 11 Oct 2025 - 16 Oct 2025 | ฿ 39,888 | ||
| 12 Oct 2025 - 17 Oct 2025 | ฿ 39,888 | ||
| 21 Oct 2025 - 26 Oct 2025 | ฿ 39,888 | ||
| 22 Oct 2025 - 27 Oct 2025 | ฿ 39,888 |
รหัส : SPSJP339
รหัส : SPSJP338
รหัส : SPSJP337
รหัส : SPSJP336
รหัส : SPSJP335