ททท : 11/11519
Header

ROYAL EXPERIENCE DELHI ALWAR JAIPUR UDAIPUR

ข้อมูลเกี่ยวกับทัวร์นี้

  • รหัสทัวร์: SPSIDVIP
  • ราคาเริ่มต้น: ฿ 48,900
  • 6 วัน 4 คืน
  • อินเดีย
  • 01 Jan 2024 - 31 Dec 2024

รายละเอียดทัวร์

"*" indicates required fields

DD slash MM slash YYYY
Please enter a number from 2 to 20.
ปฏิทิน

ไฮไลท์ทัวร์

  • อัครา ฟอร์ท (Agra Fort)
  • ทัชมาฮาล (Taj Mahal)
  • พระราชวังแห่งสายลม
  • ฮาวามาฮาลบาซาร์ (Hawa Mahal Bazaar)
  • ป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ด (Amber Fort)
  • วัดจักดิศ (Jagdish Temple)

แผนการเดินทาง

  • วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ – กรุงเดลี

    xx.xx น. พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก เจ้าหน้าทีจากบริษัทฯ จะคอยต้อนรับ และอำนวยความสะดวก

    ให้แก่ท่านก่อนขึ้นเครื่อง

    xx.xx น. เดินทางสู่vกรุงเดลลี (New Delhi) ประเทศอินเดีย เที่ยวบินที่ TG323 (ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)  เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง

    09.55 น. ถึงสนามบินนานาชาติอินทิราคานธีร์ กรุงเดลลี ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว

    นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเดลี

    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารเอเชีย  (Ziu Restaurant)

    บ่าย  จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม

    THE IMPERIAL NEW DELHI ระดับ 5 ดาว

    โอเอซีสสุดอลังการใจกลางกรุงเดลี สวยงามด้วยตัวอาคารสุดหรูสไตล์โคโลเนียล จากประเทศอังกฤษ ทีบุคคลสำคัญระดับโลกต่างพากันมาพักผ่อน ณ โรงแรมแห่งนี้ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พร้อมความภาคภูมิใจจากรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย

    • Best Heritage Hotel by The Jury-Outlook Traveler Award 2018
    • Travel+Leisure India’s Best Award 2017
    • The only 1 of 7 hotels to be listed in Conde Nast Gold List 2018

    และได้รับการขนานนามจากชาวอินเดียว่าเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในกรุงเดลี ให้ท่านได้เริ่มต้นสัมผัสความหรูหราอลังการ และย้อนเวลาไปในยุคที่อังกฤษเข้ามาปกครองประเทศอินเดีย ลิ้มรสบรรยากาศแบบวิคตอเรีย

    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม ห้องอาหาร Nostalgia

     

  • วันที่สอง กรุงเดลี – อัครา – อัครา ฟอร์ท – ทัชมาฮาล

    เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

    นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัครา (Agra) ระยะทาง 230 กม. อดีตเมืองหลวงของประเทศอินเดีย มีชื่อเรียกว่า “ฮินดูสถาน” อัครา เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยมนา ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ในรัฐอุตตรประเทศ มีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ อันดับที่ 19 ในประเทศอินเดีย และที่สำคัญเมืองอัคราถือว่าเป็นสถานที่ตั้ง “อนุสรณ์สถานแห่งความรัก” หรือ “ทัชมาฮาล”

    เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารเอเชีย  (Golden China Restaurant)

    นำท่านเที่ยวชม อัครา ฟอร์ท (Agra Fort) อีกหนึ่งสถานที่แหล่งมรดกโลกที่ควรค่าแก่การมาเยือนอัครา ฟอร์ท พระราชวังที่ถือว่ายิ่งใหญ่ เพราะใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึงสามยุคด้วยกัน ของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล เป็นกำแพงสองชั้นและป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ สถาปัตยกรรมตัวอาคารสร้างด้วยหินทรายสีแดง โดยกษัตริย์อัคบาร์ และที่แห่งนี้ยังเป็นที่คุมขังกษัตริย์ซาจาร์ฮาล พระองค์ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยการมองผ่านแม่น้ำยุมนาไปยังทัชมาฮาลที่ซึ่งมเหสีสุดที่รักของพระองค์ประทับอยู่อย่างนิรันดร์

    นำท่านเดินทางสู่ ทัชมาฮาล (Taj Mahal) หรืออนุสรณ์สถานแห่งความรัก สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคปัจจุบัน ที่ถือได้ว่าเป็นแหล่งก่อเกิดพลังแห่งความรัก ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคน ทัชมาฮาล ถือเป็นสุสานหินอ่อนที่ผู้คนต่างยกย่องให้เป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่งดงาม และยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ปัจจุบัน ทัชมาฮาล ถือว่าเป็นแหล่งมรดกโลก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สำคัญ ที่บอกเล่าเกี่ยวกับความรักที่เป็นอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัช สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 จากนั้นหัวหน้าทัวร์ นำทุกท่านเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิคที่เป็นถ้อยคำอุทิศ และไว้อาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป พร้อมกับนำทุกท่านถ่ายรูปภาพกับลานน้ำพุที่มีอาคารทัชมาฮาลอยู่เบื้องหลัง พาทุกท่านเยี่ยมชมภายในอาคารที่มีการสร้างมาจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ มีการประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหินถือได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย อาคารตรงกลางเป็นรูปโดมที่มีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัช มาฮาล และพระเจ้าชาห์จาฮัน ที่ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์

    จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม

    TAJ HOTEL & CONVENTION CENTRE AGRAv ระดับ 5 ดาว

    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม ห้องอาหาร Daawat-E-Nawab

  • วันที่สาม อัครา – นีมรนา

    นำท่านเดินทางสู่vเมืองอัลวาร์ (Alwar) ระยะทาง 166 กม. ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางทะเลสาบและป้อมปราการ รวมถึงบ้านเรือนโบราณของแคว้นราชาสถาน

    จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม

    NEEMRANA FORT PALACE ระดับ 5 ดาว

    ป้อมปราการขนาดใหญ่บนเนินเขาอราวัลลี่ (Aravalli Hills) ที่สร้างมามากกว่า 553 ปี ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด หนึ่งในความภาคภูมิใจของสิ่งก่อสร้างโบราณของแคว้นราชาสถาน  ได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมที่พักสุดหรูระดับ 5 ดาวในปีค.ศ. 2016 ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนของราชวงศ์ ในยามออกประพาสในเขตชนบทที่น่าประทับใจ

    นำท่านเดินทางสู่vเมืองอัลวาร์ (Alwar) ระยะทาง 166 กม. ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกิจกรรมทางทะเลสาบและป้อมปราการ รวมถึงบ้านเรือนโบราณของแคว้นราชาสถาน

    จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม

    NEEMRANA FORT PALACEv ระดับ 5 ดาว

    ป้อมปราการขนาดใหญ่บนเนินเขาอราวัลลี่ (Aravalli Hills) ที่สร้างมามากกว่า 553 ปี ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด หนึ่งในความภาคภูมิใจของสิ่งก่อสร้างโบราณของแคว้นราชาสถาน  ได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมที่พักสุดหรูระดับ 5 ดาวในปีค.ศ. 2016 ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนของราชวงศ์ ในยามออกประพาสในเขตชนบทที่น่าประทับใจ

     

     

  • วันที่สี่ นีมรนา – ชัยปุระ – พระราชวังแรมแบคห์

    เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

    นำท่านออกเดินทางสู่vเมืองชัยปุระ (Jaipur) ระยะทาง 154 กม. หรือ “นครแห่งชัยชนะ” ได้รับการกล่าวขนานนามว่า “นครสีชมพู” โดยมีที่มาอันเกิดมาจากเมื่อในปี ค.ศ. 1876 มหาราช ซาราม ซิงห์ (Maharaja Ram Singh) มีรับสั่งให้ประชาชนทาสีชมพูทับบนสีปูนเดิมของบ้านเรือนตนเอง เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงไมตรีจิตในการต้อนรับการมาเยือนของเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Wales) มกุฎราชกุมารของประเทศอังกฤษ ต่อมาภายหลังในยุคของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7 (King Edward VII) แห่งสหราชอาณาจักร รัฐบาลอินเดียได้มีการออกกฎหมายควบคุมสิ่งก่อสร้างภายในเขตกำแพงเมืองเก่าให้มีการทาสีชมพูทั้งหมด เพราะเหตุนี้จึงทำให้สิ่งก่อสร้างภายในเมืองต่างๆ กลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนยังเมืองชัยปุระ

    เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน (Dragon House By Radisson Hotel)

    บ่าย   นำท่านเดินทางสู่vฮาวา มาฮาล (Hawa Mahal) หรือรู้จักกันในนาม “พระราชวังแห่งสายลม” ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญอีกหนึ่งแห่ง ของประเทศอินเดียที่จักต้องมาเยือน พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเมืองชัยปุระ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1799 โดยมหาราชาสะหวาย ประธาป สิงห์ (Maharaja Sawai Pratap Singh) และได้รับการออกแบบขึ้นมาโดยสถาปนิกที่ชื่อว่า ชันด์ อุสถัด (Lal Chand Ustad) ซึ่งสถาปัตยกรรมของฮาวา มาฮาล ถอดแบบมาจากรูปทรงมงกุฏของพระนารายณ์ บริเวณด้านหน้าอาคารมีหน้าบันสูงห้าชั้น และมีลักษณะคล้ายรังผึ้ง ที่สร้างมาจากหินทรายสีแดงสด อีกทั้งยังมีการฉลุหินทำให้เป็นช่องหน้าต่างมีลวดลายเล็กๆละเอียดยิบ จึงทำให้พระราชวังแห่งนี้มีช่องหน้าต่างถึง 953 บาน แต่หน้าต่างของพระราชวังจะถูกสร้างปิดไว้ด้วยหินทรายฉลุ ทำให้นางในฮาเร็มพระสนมที่อยู่ด้านในสามารถมองผ่านข้างในมาด้านนอกได้ แต่คนจากทางด้านนอกจะไม่สามารถมองผ่านเข้ามาด้านในได้ และที่สำคัญด้วยลักษณะการสร้างแบบนี้ทำให้เกิดช่องแสงและช่องลม ซึ่งเป็นที่มาของ “พระราชวังแห่งสายลม” จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง ณ ฮาวามาฮาลบาซาร์ (Hawa Mahal Bazaar) ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิ กำไร สร้อยคอ เสื้อผ้า ต่างๆมากมาย แบบชาวราชาสถาน

    นำท่านเที่ยวชม ป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ด (Amber Fort) ตั้งอยู่ที่ เมืองอาเมร์ ห่างจากเมือง ชัยปุระไปทางทิศเหนือประมาณ 11 กิโลเมตร สร้างในสมัยศตวรรษที่ 16 โดยมหาราชา มาน สิงห์ที่ 1 (Raja Man  Singh 1) ทรงรับสั่งให้มีการสร้างป้อมปราการขึ้นในปี ค.ศ. 1592 และได้มีการบูรณะมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่น สวยงามเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หากมีโอกาสได้มาเยือนอินเดียแล้วไม่ควรพลาด  เนื่องจากตั้งอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบ อีกทั้งป้อมปราการแอมเบอร์ ฟอร์ดยังมีชื่อเสียงทางด้านสถาปัตยกรรมที่มีการผสมผสานกันระหว่างศิลปะทางฮินดู และศิลปะราชปุตอันซึ่งทำให้ที่แห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งทุกท่าน ยังสามารถมองเห็นป้อมปราการได้จากระยะทางไกล ด้วยขนาดของกำแพงปราการขนาดใหญ่และมีความแน่นหนา พร้อมประตูทางเข้าหลายแห่ง ถนนที่ปูด้วยหินหลายสาย และพิเศษสุดๆ ทุกท่านสามารถมองเห็นทะเลสาบเมาตา ได้อย่างชัดเจน เมื่อมองจากบนป้อมปราการ ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การนั่งช้าง ขึ้นเที่ยวชมป้อมปราการ

    จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม

    RAMBAGH PALACE ระดับ «««««« ดาว

    โรงแรมชื่อดังจุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมดั้งเดิม โรงแรมแห่งนี้เดิมเคยเป็นพระราชวังของมหาราชาแห่งชัยปุระ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1835 ความงดงามการันตีด้วยฉายา “อัญมณีแห่งชัยปุระ” (Jewel of Jaipur) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์กหลายแห่งของเมืองชัยปุระ สิ่งที่คุณจะได้สัมผัสและประทับใจไม่รู้ลืม คือประสบการณ์แบบมหาราชา          ตั้งแต่การบริการชั้นพรีเมียม ห้องอาหารสุดอลังการ ไปจนถึงการตกแต่งห้องพักที่ยังคงไว้ตามแบบดั้งเดิมเมื่อครั้งยังเป็นพระราชวัง

    ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม ห้องอาหาร Suvarna Mahal

  • วันที่ห้า ชัยปุระ – อุทัยปุระ – พระราชวังกลางน้ำ

    08.00 น.  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

    09.00 น.  นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอุทัยปุระ (Udaipur) ระยะทาง 390 กม. ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐราชาสถาน เป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยภูเขา และทะเลสาบมากมาย ทำให้เมืองอุทัยปุระมีความเขียวชอุ่มกว่าเมืองอื่นในรัฐราชาสถาน เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และโรแมนติคมากเมืองหนึ่งของอินเดีย โดยเฉพาะยามเย็นบรรยากาศริมทะเลสาบพิโคลา มีโรงแรม Taj Lake palace สีขาวกลางน้ำ ตัดกับแสงอาทิตย์ยามเย็นพร้อมแนวเทือกเขาสลับซับซ้อน เมืองอุทัยปุระถูกสถาปนาในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 และตั้งชื่อตามมหารานา อุได ซิงห์ที่ 2 (Maharana Udai Singh II) ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ซิโซเดีย (Sisodia) ที่ครองอาณาจักรเมวาร์ (Mewar) มาอย่างต่อเนื่องหลายร้อยปี และ ที่สำคัญราชวงศ์นี้ นับว่ามีความแข็งแกร่งสุดในบรรดากลุ่มเจ้าราชปุตด้วยกัน ไม่ยอมก้มหัวให้ผู้รุกรานต่างชาติ และยังต่อสู้กับจักรวรรดิโมกุลได้นานที่สุด

    เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน (Wok By The Lake By Radisson Hotel)

    บ่าย  จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม TAJ LAKE PALACE ระดับ 5 ดาว

    โรงแรมห้าดาวที่โดดเด่นด้วยชัยภูมิซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบ ในอดีตคือพระราชวังกลางน้ำที่เดิมชื่อว่าจักรนิวาศน์ (Jag Niwas)  แขกที่มาเข้าพักต้องเดินทางโดยเรือเข้ามาเท่านั้น  โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทะเลสาบพิโคลา เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง James Bond ตอน Octopussy (พยัคฆ์ร้าย 007 ตอน เพชฌฆาตปลาหมึกยักษ์) เมื่อปี ค.ศ. 1983

    ด้วยเดิมเป็นพระราชวังเก่าที่สถาปัตยกรรมงดงานไร้ที่ติ ได้รับการดัดแปลงมาเป็นโรงแรมในปี ค.ศ. 1963 โดยเครือโรงแรม Taj และบริหารเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวในปัจจุบัน โรงแรม Taj Lake Palace มีห้องพักอยู่ทั้งสิ้น 83 ห้อง แน่นอนว่าชัยภูมิอันโดดเดี่ยวย่อมมาคู่กับความสงบและความเป็นส่วนตัว ก่อสร้างด้วยกำแพงหินอ่อนตั้งตระหง่านกลางน้ำ คือสัญลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาสัมผัส การตกแต่งภายในห้องพักเปี่ยมเอกลักษณ์ด้วยภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังแบบอินเดีย และเฟอร์นิเจอร์สีโทนร้อน แน่นอนว่าแขกทุกท่านจะได้รับการบริการเฉกเช่นพระราชา ที่จะต้องจดจำไป มิรู้ลืม

    ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในโรงแรมห้องอาหาร Bhairo

  • วันที่หก อุทัยปุระ – วัดจักดิศ – สนามบินอุทัยปุระ – สนามบินกรุงเดลี

    เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

    หลังอาหารเช้าเป็นเวลาอิสระให้ท่านได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดคลาสสิคของโรงแรมและทะเลสาบ พิโคลา ใจกลางเมืองอุทัยปุระ

    บ่าย  นำท่านเที่ยวชม วัดจักดิศ (Jagdish Temple) เป็นวัดฮินดูที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอุทัยปุระ มีอายุเกือบ 400 ปี สร้างในปี ค.ศ. 1651 ในสมัยของมหารานาจากัต ซิงห์ที่ 2 (Maharana Jagat Singh II) เป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองเป็นอย่างมาก โดยภายในมีหินสีดำแกะสลักเป็นรูปจากานนาท ซึ่งเป็นภาคหนึ่งชองพระวิษณุ และยังมีจุดเด่นอยู่ตรงการแกะสลักผนังวัดเป็นรูปนางอัปสรา และสัตว์ลักษณะต่างๆ อย่างละเอียด โดยภายในวิหารไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป แต่ภาพนอกวัดถ่ายได้ ใกล้ๆกับวัดจักดิศมีร้านขายสินค้าที่ระลึกมากมาย

    ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองอุทัยปุระ

    19.15 น. ออกเดินทางสู่สนามบินกรุงเดลีโดยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E2299

    20.45 น.  ถึงสนามบินกรุงเดลี

     

     

  • วันที่เจ็ด กรุงเทพฯ

    00.20 น. ออกเดินทางอีกครั้งกลับสู่ประเทศไทย โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG316

    05.45 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ….

แผนที่

ทัวร์ที่คล้ายๆกัน